เผยแพร่ |
---|
พรรคประชาธิปัตย์กำลังเผชิญกับ”ทางเลือก”อันแหลมคมและมีความสำคัญอย่างยิ่งในทางการเมือง
1 เมื่อประสบกับการให้คำขวัญกับ นายชวน หลีกภัย
ต่อบทบาทของ นายชวน หลีกภัย ในฐานะประธานรัฐสภาในคืนวันที่ 24 กันยายนจากปากของ รุ้ง ปภัสยา
1 เมื่อประสบกับการลวงหลอกของพรรคพลังประชารัฐ
เป็นการลวงหลอกให้พรรคประชาธิปัตย์คิดว่าจะมีการลงมติต่อร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่พรรคประชาธิปัตย์มีส่วนร่วม แต่ในที่ สุดกลับไปร่วมกับ ส.ว.เบี่ยงเบนเป็นการเสนอตั้ง”กรรมาธิการ”ศึกษา
การลวงหลอกอันมาจากพรรคพลังประชารัฐครั้งนี้ไม่เพียงแต่กระทำต่อพรรคประชาธิปัตย์ หากแต่ยังกระทำต่อ นายชวน หลีกภัย ซึ่งถือว่าเป็นปูชนียบุคคลสำคัญของพรรค
เห็นได้จากคำสารภาพที่ว่า “ผมก็ถูกหลอกเหมือนกัน”
คำถามอยู่ที่ว่าเมื่อนำเอาเรื่องลวงหลอกเปรียบเทียบกับการให้ของขวัญแก่ นายชวน หลีกภัย จาก รุ้ง ปภัสยา อย่างไหนร้ายแรงกว่ากัน
ท่าทีของหลายคนจากพรรคประชาธิปัตย์เหมือนกับหงุดหงิดกับของขวัญอัน นายชวน หลีกภัย ได้มาจากเรียวปากของ รุ้ง ปภัสยา มากกว่าการลวงหลอกของพรรคพลังประชารัฐ
เห็นได้จากการออกโรงกระหน่ำเข้าใส่ รุ้ง ปภัสยา รวมถึงเยาว ชนปลดแอก และแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว หากนำเอาบางถ้อยคำของ นายชวน หลีกภัย ที่กล่าวต่อสมาชิกรัฐสภาในห้วงที่มีเสียงร้องด่าจากผู้ชุมนุมภายนอกก็จะตระหนักถึงรากที่มาแห่งความรู้สึก
เชื่อได้เลยว่า บรรดา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ก็หงุดหงิดต่อท่วงท่าการหลอกอันมาจากการสมคบคิดระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับ ส.ว.เป็นอย่างยิ่ง
เห็นได้จาก ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ยอมรับต่อข้อเสนอการจัดตั้ง”กรรมาธิการ”อย่างเด่นชัด
สถานการณ์ทางการเมืองนับจากวันที่ 24 กันยายนเป็นต้นมาได้เสนอทางเลือกให้พรรคประชาธิปัตย์เด่นชัดและแหลมคมเป็นอย่าง สูงว่าจะทำอย่างไร
เพราะไม่แน่ว่าก่อนจะเปิดประชุมสภาสมัยสามัญในเดือนพฤศจิกายนจะมีอะไรเกิดขึ้น
โดยเฉพาะจากสถานการณ์ในเดือนตุลาคม