เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าข่าวลือว่าด้วย “รัฐบาลแห่งชาติ” ไม่ว่าข่าวลือว่าด้วย “รัฐบาล ลักษณะพิเศษ” ไม่ว่าข่าวลือว่าด้วย “รัฐบาลรวมพลังสร้างชาติไทย”
สะท้อนความอ่อนไหว เปราะบางที่ดำรงอยู่ในทาง”ความคิด”
เป็นความเปราะบางทั้งในฝั่งที่เรียกตัวเองว่าเป็นนักประชาธิป ไตย เป็นความเปราะบางทั้งในฝั่งที่เรียกตัวเองว่าเป็นนักปฏิรูปก่อน การเลือกตั้ง
เป็นความอ่อนไหวเพราะในที่สุดแล้วก็มิได้พิจารณาจากพื้นฐานแห่ง”โครงสร้าง” หากพุ่งความสนใจไปยัง”ตัวบุคคล”อย่าง เป็นด้านหลัก
ฝากความหวัง ฝากความมั่นใจไว้กับ”ตัวบุคคล” จึงมองข้ามการครอบงำและกดทับโดย”โครงสร้าง”
ไม่ว่าจะมองไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะมองไปยังพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะมองไปยัง นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ไม่ว่าจะมองไปยังพรรคเพื่อไทย
กระทั่งลืมไปว่า ณ วันนี้ องค์ประกอบภายในโครงสร้างของสัง คมได้บังเกิด”เยาวชนปลดแอก”ขึ้นแล้ว
เมื่อประสบกับสถานการณ์เพรียกหา”รัฐบาลรวมพลังสร้างชาติไทย” เมื่อประสบกับปฏิบัติการไอโออันส่งตรงมาจากฤาษีเกวาลันแห่งเทือกเขาหิมาลัย
ก็บังเกิดสภาพอ่อนปวกเปียก อุดมการณ์ที่เคยมีก็แปรเปลี่ยนไปสู่ความเพ้อฝันอันเลื่อนลอย
หวังพึ่งพลังบางพลังในแบบอภินิหารพันลึกของฤาษี
ปรากฏการณ์”เยาวชนปลดแอก”ที่เคยเปล่งพลานุภาพนับแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา กระทั่งมหึมามหาศาลผ่าน”19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร”ก็ถูกมองข้าม
ราวกับเสียงเปล่ง”ออกไป ออกไป”อันเคยดังกึกก้องทุกแฟล็ชม็อบในขอบเขตทั่วประเทศจากเดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ก็แทบไม่มีความหมาย
กลับกลายเป็น”รัฐบาลแห่งชาติ” กลับกลายเป็น”รัฐบาลรวม พลังสร้างชาติไทย”ไปโดยอัตโนมัติ
เมื่อปรากฏการณ์”เยาวชนปลดแอก”เข้าปะทะกับปรากฏการณ์”รัฐ บาลรวมพลังสร้างชาติไทย”ก็ได้กลายเป็นคำถามอันแหลมคมในทางการเมือง
ถามไปยังคนที่เคยกู่ก้องร้องตะโกน”ออกไป ออกไป”
ถามไปยังคนที่เคยต่อสู้เดือนตุลาคม ต่อสู้เดือนพฤษภาคมว่ายังมั่นใจในพลานุภาพของประชาชนมากน้อยเพียงใด