เผยแพร่ |
---|
หลายคนในพรรคพลังประชารัฐมีความหงุดหงิดและไม่พอใจทุกครั้ง ที่ได้ยินคำว่า “ระบอบประยุทธ” อันมาจากปากของหลายคนในพรรคก้าวไกลซึ่งมีพื้นฐานมาจากพรรคอนาคตใหม่
ไม่ว่าในห้วงแห่งการหาเสียง ไม่ว่าภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2516
เชื่อได้เลยว่าจะต้องหงุดหงิด จะต้องไม่พอใจไปเรื่อยๆ
ยิ่งภายหลังจากสถานการณ์การประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 24 กัน ยายน วาทกรรมว่าด้วย”ระบอบประยุทธ์”จะยิ่งได้รับการโหมประโคมขึ้นมาอย่างคึกคัก
เพราะว่าปรากฏการณ์เมื่อวันที่ 24 กันยายน คือรูปธรรมหนึ่งแห่งการสำแดงพลังของ”ระบอบประยุทธ์” ในการเตะถ่วงและซื้อเวลาให้กับ”รัฐธรรมนูญ”
เป็นกระบวนการสมคบคิดในทางการเมืองระหว่าง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ กับ 250 ส.ว.
ปรากฏการณ์นี้เองคือรูปธรรมแห่ง”ระบอบประยุทธ์”
จำเป็นต้องตั้งคำถามถึงรากฐานอันก่อรูปขึ้นเป็น”ระบอบประยุทธ์”นั้นประกอบส่วนขึ้นอย่างไร
คำตอบ 1 คือ รากฐานจากการ”รัฐประหาร”
ไม่ว่ารัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ซึ่งถูกประเมินว่าเป็นรัฐประหาร”เสียของ” ไม่ว่ารัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 อันเชื่อกันว่าทำเพื่อปะผุสภาพอันเคย”เสียของ”ให้มีความสมบูรณ์
คำตอบ 1 คือ การประกอบส่วนขึ้นของ “รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560”
เป้าหมายอันเป็นแก่นแกน คือ การสืบทอดอำนาจ
นั่นก็คือ รัฐประหารเสร็จแล้วมิได้กระทำด้วยการมอบอำนาจให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ตรงกันข้าม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดกุมอำนาจเสียเอง
จากนั้นก็ร่าง”รัฐธรรมนูญ”ขึ้นมาเป็นหลักประกันแห่ง”อำนาจ”
ภาพของ”ระบอบประยุทธ์”จึงคือภาพแห่งรัฐประหาร จึงคือภาพแห่งรัฐธรรมนูญอันเป็นเครื่องมือ
หากจะต่อกรกับ”ระบอบประยุทธ์” จึงมีความจำเป็นต้องทำความเข้าใจต่อสภาพความเป็นจริงของ”ระบอบประยุทธ์”ตามความเป็นจริงที่ดำรงอยู่
ความเป็นจริงแห่งองคาพยพ ความเป็นจริงแห่งระบอบ
นับแต่สถานการณ์เมื่อวันที่ 24 กันยายนเป็นต้นมาความจำเป็นนี้ยิ่งทวีบทบาทและความหมาย