E-DUANG : มวลชน เสื้อแดง เยาวชนปลดแอก19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร

การพลิกฟื้นขึ้นมาอีกครั้งของมวลชน”คนเสื้อแดง”เมื่อเชื่อมประสาน เข้ากับ”เยาวชนปลดแอก” กลายเป็นพลังที่อยู่นอกเหนือความ คาด คิดใดในทางการเมือง

หากฟังน้องๆหลายคนที่เข้ามามีบทบาทนับแต่วันที่ 18 กรกฎา คม ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นต้นมา

รัฐประหารเดือนกันยายน 2549 เขาและเธอเรียน”ประถม”

ไม่ว่าอยู่ในห้องเรียน ไม่ว่าอยู่นอกห้องเรียน ความรับรู้ในทางการเมืองน้อยมาก

ทั้งน้อยในแบบที่มีการฉาบสี ตกแต่งเป็นอย่างสูง

รัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 เขาและเธออาจเรียนชั้นมัธยมและอาจเคยถูกผู้ปกครองพาไปร่วมในการชุมนุมชัตดาวน์กรุง เทพมหานครมาแล้ว

กระนั้น ประสบการณ์ตรงกลับเป็นผลสะเทือนจากการบริหาร ราชการแผ่นดินจากพฤษภาคม 2557 มาถึงปัจจุบัน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่างหากคือ”ตัวกระตุ้น”ยอดเยี่ยม

 

นิ้วของรัฐบาล นิ้วของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นิ้วของ พล.อ.ประ วิตร วงษ์สุวรรณ นิ้วของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อาจชี้ไปยังพรรค อนาคตใหม่

ชี้ไปยัง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ชี้ไปยัง นายปิยบุตร แสงกนกกุล ชี้ไปยัง น.ส.พรรณิการ์ วานิช

แต่ที่ไม่ควรมองข้ามก็คืออีก 3 นิ้วชี้ไปยังใคร

แน่นอนเป็นอื่นไปไม่ได้นอกเสียจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นอกเสียจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นอกเสียจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา

3 นายพลเอกซึ่งเคยเป็นผู้บัญชาการทหารบก เคยเป็นแกนสำคัญแห่งบูรพาพยัคฆ์ต่างหากที่ทำให้บรรดากุมารและกุมารีทั้งหลายได้บังเกิดอาการ”ตาสว่าง”

ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือแท้ๆของรัฐบาลอันมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

 

ตราบใดที่ดวงตาของเด็กๆมิได้บอด ตราบใดที่หูของเด็กๆมิได้เป็นหูกะทะ ตราบใดที่ปากของเด็กๆมิได้เป็นใบ้

เขาและเธอย่อมเห็น ย่อมได้ยิน ย่อมพูดออกมาได้

สิ่งที่มวลชน”คนเสื้อแดง”เคยประสบ กับสิ่งที่”เยาวชนปลดแอก”ได้ประสบได้กลายเป็น”อารมณ์ร่วม”

อันจะสำแดงผ่าน”19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร”