เผยแพร่ |
---|
หากย้อนกลับไปฟังปาฐกถาพิเศษ “มายาคติราชาชาตินิยม กับ ไทย แลนด์ 4.0” ของ ศาสตราจารย์ธงชัย วินิจกุล เมือ่เดือนสิงหาคม 2561 ก็จะเข้าใจสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน
นั่นเป็นปาฐกถาที่เกิดขึ้นก่อนสถานการณ์การเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562
เป็นปาฐกถาในห้วงแห่งคำว่า “ดิสรัพชั่น”กำลังอาละวาด
เป็นปาฐถาในห้วงก่อนที่พรรคอนาคตใหม่จะมีสถานะอันเด่นชัดในทางการเมืองและสร้างความหวาดกลัวให้ภายในกลุ่มกุมอำนาจรัฐมากยิ่งขึ้น มากยิ่งขึ้น
และนึกอย่างไรก็นึกไม่ออกว่าจะมีประชาชนเลือกคนของพรรค อนาคตใหม่เข้ามามีจำนวนมากถึง 6.3 ล้านเสียง อย่าว่าแต่ผู้กุมอำ นาจรัฐเลยที่นึกอย่างไรก็นึกไม่ออก
แม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะพ่ายแพ้ให้แก่พรรคอนาคตใหม่
นั่นแหละคือรากฐานที่มาของการเดินหน้าเพื่อบดขยี้และทำลายพรรคอนาคตใหม่เหมือนกับที่เคยกระทำต่อพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน
อย่าว่าแต่พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนาเลย ที่มิได้คาดคิดว่าพรรคอนาคตใหม่จะทะยานเข้าสู่สนามการเมืองได้ระดับนี้
แม้กระทั่ง ศาสตราจารย์ธงชัย วินิจจะกูล ในตอนที่ปาฐกถาก็มิได้มีภาพของพรรคอนาคตใหม่
มิได้มีภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล
น.ส.พรรณิการ์ วานิช แม้จะเน้นย้ำอย่างหนักแน่นและจริงจังในเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่จะมากับกระแส”ดิสรัพชั่น”
เพียงแต่ได้ชี้ให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่ที่เติบใหญ่ในห้วง 1 ทศวรรษหลังจากรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 มีความแตกต่างไปจากคนรุ่นก่อนเป็นอย่างสูง
และที่สุดหลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ก็นำไปสู่ปรากฏการณ์”แฟล็ชม็อบ”พร้อมกับการมาของโควิด
อย่าได้แปลกใจหากงานของ ศาสตราจารย์ธงชัย วินิจจะกูล อันตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์”ฟ้าเดียวกัน”จะเป็นงานที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจเป็นอย่างสูง
กลายเป็น”ไอดอล”ไม่ต่างไปจากนามของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล
ในห้วงก่อน”19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร”