พลันที่ได้ยินคำประกาศจาก น้องรุ้ง ปภัสรา จาก เพนกวิน พริษ จาก ไมค์ ภาณุพงศ์ ถึงรายละเอียดหลายประการของการชุมนุมวันเสาร์ที่ 19 กันยายน ณ ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

​ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดเจนระดับ สนธิ ลิ้มทองกุล ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดเจนระดับ สุเทพ เทือกสุบรรณ ล้วนส่ายหัว

​ยิ่งระดับ จตุพร พรหมพันธุ์ ยิ่งต้องส่ง”แรงใจ”ไปเกื้อหนุน

​จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะจะสามารถระดมผู้เข้าร่วมได้อย่างคึกคักหนักแน่นจนต้องล้นออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไปยัง ท้องสนามหลวง

​ในเมื่อเมื่อตอนที่”แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม”จัดขึ้นที่ ลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม ก็มีเพียง”เรือนหมื่น”

​ขณะที่พื้นที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จะต้องทะยานไป”เรือนแสน”จึงจะเต็มอย่างชนิดแน่นเอี๊ยด

​แม้จะเป็นการชุมนุม”19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร”อย่างที่มีการประกาศชื่อออกมาก็ตาม

 

ต้องยอมรับว่าการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้รับการหนุนเสริมจากพลังที่เป็นปรปักษ์กับ”ระบอบทักษิณ”อย่างกว้างขวางเป็นอย่างมาก

​โดยเฉพาะพลังจากกลุ่มอนุรักษ์ที่กุม”อำนาจนำ”ทางการเมือง

​ต้องยอมรับว่าการชุมนุมของมวลมหาประชาชนนอกเหนือจาก จะได้พลังจากที่เคยร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังได้พลังอันมีลักษณะจัดตั้งจากพรรคประชาธิปัตย์

​ทั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้งมวลมหาประชาชน กปปส.จึงคับคั่งทั้งแนวร่วมที่พร้อมจะเติมคนเข้ามา และทั้งเงินทุนอันเป็นท่อน้ำเลี้ยงจำนวนมหาศาล

​คำถามก็คือแล้ว”19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร”ของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมจะระดมมาได้อย่างไร

 

การชุมนุม”19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร”จึงเป็นการท้าทายเป็น อย่างสูง ไม่เพียงแต่ต่ออำนาจที่มีอยู่ในมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

​หากแต่ยังเป็นการท้าทายต่อการชุมนุมที่ผ่านมาแล้วในอดีต

​ไม่ว่าเมื่อก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าเมื่อก่อนรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557

​เป็นไปได้หรือที่”พลังบริสุทธิ์”จะปรากฏตัว”เรือนแสน”

​เป็นไปได้หรือที่มวลชน”เรือนแสน”จะมาเพราะมนต์จาก รุ้ง ปภัสรา หรือ เพนกวิน พริษฐ์ และ ไมค์ ภาณุพงศ์