ไม่ว่าประเด็นว่าด้วย 1 คนรุ่นใหม่ ไม่ว่าประเด็นว่าด้วยสถานะทางเพศ ซึ่งปรากฏอย่างคึกคักในการชุมนุมเคลื่อนไหวนับแต่วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคมเป็นต้นมาจะได้รับความสนใจสูงขึ้น

​มิได้มีแต่ในลักษณะที่พวกเขาเข้าไปอยู่ในสถานะแห่ง”แกนนำ” มิได้มีแต่ในลักษณะที่พวกเขาเข้าไปยึดกุมเวทีและปราศรัย

​ดังที่สัมผัสได้ในวันที่ 10 สิงหาคมที่ธรรมศาสตร์

​ดังที่สัมผัสได้ในการชุมนุม ณ ประตูท่าแพ เชียงใหม่ ที่จุฬาลง กรณ์มหาวิทยาลัย

​และล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม บนถนนราชดำเนิน

​ปรากฎการณ์ของ”คนรุ่นใหม่”แทบไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงอีกต่อไปแล้ว สปอตไลต์กำลังฉายจับไปยังบทบาทและการดำรงอยู่ของกลุ่มคนที่เรียกตนเองว่า LGBTQ

​นี่คือปรากฏการณ์ใหม่ นี่คือสมาชิกใหม่ที่เสนอตัวเข้ามาอย่าง เปิดเผยในกระบวนการเคลื่อนไหวทางการเมือง

​เป็นบทบาทที่ลึกซึ้งกว้างขวางยิ่งกว่ายุค เสรี วงศ์มณฑา

 

ต้องยอมรับว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่เพียงแต่จะเปิดประตูให้กับคนรุ่นใหม่ซึ่งไม่จำเป็นต้องมาจากตระกูลใหญ่ในทางการเมือง หากคนหน้าใหม่ล้วนได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น

​ยิ่งกว่านั้น ประตูของพรรคอนาคตใหม่ยังเปิดกว้างให้กับกลุ่มบุคคลอันเป็น LGBTQอีกด้วย

​แต่ไหนแต่ไรมาทุกพรรคการเมืองล้วนแสดงท่าทีที่ต้อนรับต่อคนรุ่นใหม่อย่างที่เห็นใน”ยุวประชาธิปัตย์” ยังที่เห็นการประกาศตัวของ “ยังบลัด”ในพรรคชาติไทยพัฒนา

​แต่ต่อกลุ่มบุคคลอันเป็น LGBTQ กลับไม่เคยมีพรรคการเมืองใดเปิดกว้างเหมือนกับพรรคอนาคตใหม่มาก่อน

​อาจมีสอดแทรกอยู่บ้างแต่ก็อย่างมิดเม้มไม่เปิดตัว

​ตรงกันข้าม พรรคอนาคตใหม่เปิดประตูอย่างกว้างขวางและโอ่โถงให้กับกลุ่ม LGBTQ กระทั่งอยู่ใน ส.ส.บัญชีรายชื่อ

​สร้างความคึกคักให้กับที่ประชุมรัฐสภาอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน

 

เด่นชัดยิ่งว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไปแต่ละพรรคการเมืองก็จะเปิดประตูต้อนรับกลุ่ม LGBTQ มากยิ่งขึ้น แต่จะได้ในระนาบเดียวกับที่พรรคอนาคตใหม่เคยทำหรือไม่

​ยังต้องดูภาพเดียวกันนี้ในพรรคก้าวไกลและพรรคการเมืองอื่น

​กระนั้นก็ตาม บทบาทของ LGBTQ ในพรรคอนาคตใหม่ ก้าวไกลและในการเคลื่อนไหวชุมนุม”เยาวชนปลดแอก”

​ย่อมส่งผลสะเทือนไปต่อแต่ละพรรคการเมืองอย่างแน่นอน