เผยแพร่ |
---|
แม้สังคมจะพบเห็นการเคลื่อนไหวของ”เยาวชนปลดแอก”ในรูปของการยืนถือ “กระดาษเปล่า” หรือในรูปของ “วิ่งนะวิ่ง นะแฮมทาโร” กระทั่งการ”เยี่ยมชมสวนในยาม 2 ทุ่มมาแล้ว”
กระนั้น การนัดชุมนุมใหญ่ในวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บนถนนราชดำเนิน
ก็ยังเป็นความลี้ลับที่ไม่สามารถคาดเดาได้ในทางการเมือง
ไม่มีใครรู้ว่า “เยาวชน/ประชาชนปลดแอก”วางรายละเอียดเอาไว้อย่างไร
หรือหากมองจากทางด้านของรัฐบาล จากทางด้านของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีบทสรุปว่าสถานการณ์นับแต่วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม ดำเนินไปบนพื้นฐานแห่ง”ทฤษฎีสมคบคิด”
เป็นการวางแผนและชักใยอย่างแยบยลจากคณะและพรรคการ เมืองซึ่งมีสายสัมพันธ์แนบแน่นอยู่กับ นักเรียน นิสิตนักศึกษา
ก็คาดคิดไม่ได้เหมือนกันว่า”สภาพการณ์”จะดำเนินไปอย่างไร
ความเร้นลับทั้งหมดนี้แม้จะเป็นเรื่องปรกติของการเคลื่อนไหวในทางการเมืองแต่ก็เป็นเสน่ห์อันอยู่เหนือความคาดหมาย
ความสลับซับซ้อนประการหนึ่งเมื่อเทียบกับความจัดเจนที่”เยาวชน ปลดแอก”ได้มาจากการชุมนุมเมื่อตอนค่ำของวันเสาร์ที่ 18 กรกฎา คมก็คือ การเริ่มต้นจากความอ่อนหัด ความไม่พร้อม
ไม่ว่าจะในเรื่องของเวที ไม่ว่าจะในเรื่องของผู้ปราศรัย ไม่ว่าจะในเรื่องของการขับเคลื่อน
แม้ว่าจากวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม ด้วยการทดลองชุมนุมในแต่ละมหาวิทยาลัย ในแต่ละจังหวัด ในแต่ละครั้งอาจให้บทเรียนและเท่ากับเป็นการสะสมความจัดเจน
กระนั้นในเมื่อการชุมนุมในวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคมเป็นการชุมนุมนอกมหาวิทยาลัย เป็นการชุมนุมบนถนนราชดำเนินบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
จึงยากที่จะนึกออกว่า”ภาพ”จะเป็นไปอย่างไรในทางเป็นจริง
เวลาจากวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม มายังวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคมของ”เยาวชน/ประชาชนปลดแอก”จึงยังเป็นความลี้ลับ
เป็นความลี้ลับในขณะที่รัฐบาลก็พยายามเตะสกัดขาด้วยการรวบ ตัวบุคคลที่คิดว่าเป็น”แกนนำ”
เป้าหมายเพื่อตัดกำลังและสร้างความระส่ำระสาย
เป็นความระส่ำระสายบนพื้นฐานแห่งความหวาดกลัว ความไม่แน่ใจว่าจะขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไร