แม้ในเบื้องต้นสถานการณ์จับ”อานนท์-ไมค์”จะปรากฏผ่านสื่อกระแสหลักน้อยมาก แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายและความเป็น จริงเป็นที่ประจักษ์ สถานการณ์นี้ก็เปลี่ยนสถานะทางการเมือง

จากที่เคยอยู่ในสถานะอันเป็น “ด้านรอง” ค่อยๆกลายมาเป็น”ด้านหลัก”มากยิ่งขึ้น

รูปธรรมของสถานะด้านหลักอยู่ที่การแสดงผ่าน”พาดหัวข่าว”

ต้องยอมรับว่าสถานการณ์จับ”อานนท์-ไมค์”เกิดขึ้นในวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม โดยมีจุดเริ่มจากการโพสต์ของ นายอานนท์ คำภา ผ่านเฟซบุ๊คว่า “ผมถูกจับ”เวลาประมาณ 14.00 น.

จากนั้นเรื่องก็เดินไปอย่างรวดเร็วสำหรับโลกออนไลน์ได้เห็นการไลฟ์สดบริเวณ สน.สำราญราษฎร์ ต่อเนื่องไปยังบริเวณ สน.บางเขนและจบลงที่สน.ห้วยขวาง

คนที่ติดตามผ่าน”ไลฟ์”รับรู้เรื่องราวโดยตลอด แต่ไม่ปรากฏเรื่องราวผ่านโทรทัศน์ และสื่อหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่

เช้าวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคมจึงเป็นเรื่องในโลก”ออนไลน์”

 

ปรากฏการณ์ในวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม ยิ่งทวีความเร้าใจเพราะมีกำหนดนัดหมายที่ตำรวจจะนำเอา นายอานนท์ นำภา และนายภาณุพงศ์ จาดนอก ไปศาลอาญา

สำหรับในโลก”ออนไลน์”รับรู้ภาพ นายอานนท์ นำภา และ นาย ภาณุพงศ์ จาดนอก ถูกตำรวจ”ลากตัว”ได้ครบถ้วน บริบูรณ์

แต่ในโลกหนังสือพิมพ์มีปรากฏออกมาเพียง”บางฉบับ”

พาดหัวหลักยังเป็นเรื่องของ บอส อยู่วิทยา ยังเป็นเรื่องบ่อนกลางเมือง แสดงให้เห็นว่ายังให้ความสำคัญกับกรณีของ”อานนท์-ไมค์”น้อยอยู่

แต่ที่กลายเป็นปรากฏการณ์ก็คือ การนัดแฟล็ชม็อบที่บริเวณพื้นที่สกายวอล์ก แยกปทุมวัน ในตอนสายของวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นในตอนเย็นก็ปรากฏมวลชนพรึ่บ

สะท้อนให้เห็นว่าด้านหลักของมวลชนเป็นคนในโลกออนไลน์

การที่มีมวลชนเข้าร่วมจำนวนมากกว่า 1,000 และแตะเข้าไปยังเกือบ 2,000 ด้วยเวลาไม่นานนักถือได้ว่าเป็นความมหัศจรรย์

 

ไม่ว่าวงการโทรทัศน์ ไม่ว่าวงการหนังสือพิมพ์ ข่าวจับ”อานนท์-ไมค์”เป็นเครื่องยืนยันว่าการ รุกคืของ”สื่อออนไลน์”มีความเข้มข้น

ข่าวการจับ”อานนท์-ไมค์”ปรากฏผ่านสื่อใหม่ในโลกออนไลน์เป็นด้านหลัก

แล้วก็ค่อยรุกคืบเข้าไปในพื้นที่ของ”สื่อเก่า”อย่างรวดเร็ว