เผยแพร่ |
---|
อย่าว่าแต่ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ จะตื่นตะลึงเมื่อได้พบเห็นด้วยตาของตนเองกับการปรากฏขึ้นของ วิ่งนะวิ่ง แฮมทาโร บริเวณโดย รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
หากก่อนหน้านี้เล็กน้อยระหว่างดำเนินรายการไล่ฟ์สดจากจัง หวัดพิษณุโลกเมื่อประสบเข้ากับคำถามถึง”แฮมทาโร่”
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ยอมรับว่า “ไม่รู้”
บรรดาหน่วยงานความมั่นคงที่ปล่อยชุดทางความคิดผ่านปฏิบัติการไอโอในทำนองว่าม็อบ”ปลดแอกเยาวชน”มาจากการสมคบคิดร่วมกับ”คณะก้าวหน้า”
ไม่ว่าจะเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่าจะเป็น นายปิยบุตร แสงกนกกุล ไม่ว่าจะเป็น น.ส.พรรณิการ์ วานิช
อาจมีความจำเป็นต้องเปลี่ยน”กระบวนทัศน์”ครั้งใหญ่
เพราะที่ปรากฏผ่านวิ่งนะวิ่ง แฮมทาโร่ ล้วนเป็นเยาวชนรุ่นใหม่ เป็นนักเรียนมัธยมและด้านหลักเป็นสตรี
นี่คือมิติใหม่ นี่คือการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของการเคลื่อนไหว
กระบวนการแสดงออกของ”เยาวชนปลดแอก”เหมือนกระแสคลื่นลูกใหม่ที่กระทบกระแทกเข้าหาฝั่ง
ไม่ว่าที่เชียงใหม่ ไม่ว่าที่ขอนแก่น ไม่ว่าที่ภูเก็ต ไม่ว่าที่ปากน้ำ
มีการเปลี่ยนแปลงและนำเสนอปรากฏการณ์ใหม่ๆเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
ไม่ว่าจะเป็น”รูป”การชุมนุม ไม่ว่าจะเป็น”ข้อความ”ที่ยกชู
เราได้เห็นการชุมนุมประเภท”เยี่ยมชมสวนยาม 2 ทุ่ม”โดยดำเนินไปในแบบละครสดๆ จากจุดเริ่มต้นเพียง 1 ท่ามกลางการตั้งแถวยืนจังก้าของเจ้าหน้าที่หลายสิบคน
เราได้เห็นอาการฟรุ้งฟริ้งของ”ม็อบตุ้งติ้ง”นำเอาบทสนทนาจาก”หอแต๋วแตก”มาปรับประสานเข้ากับสภาพการณ์ทางการเมืองได้อย่างเหมาะเจาะ
และได้เห็นน้องๆนักเรียนวิ่งพร้อมกับร้องเพลงแฮมทาโร่ปรับใหม่ใส่เนื้อเข้าไปอย่างสอดรับกับอารมณ์แห่งยุคสมัย
อย่าได้แปลกใจหากคนรุ่นก่อนอย่าง นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะมองแต่ละปรากฏการณ์อันเกิดขึ้นด้วยความงุนงงสงกา
อย่าถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รู้สึกอย่างไร อย่าถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รู้สึกอย่างไร
เพราะทุกอย่างอยู่ในบทเพลง วิ่งนะวิ่ง แฮมทาโร่ ครบถ้วน