เผยแพร่ |
---|
ยุบพรรคอนาคตใหม่ไปแล้ว ตัดสิทธิทางการเมืองไปแล้ว ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ แต่เมื่อมาถึงเดือนมิถุนายน เดือนกรกฎาคม เงาสะท้อนแห่งพรรคอนาคตใหม่ก็ยังดำรงคงอยู่ในโฉมแห่งก้าวไกล
ทั้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทั้ง นายปิยบุตร แสงกนกกุล ทั้ง น.ส.พรรณิการ์ วานิช ก็มิได้หายไปไหน
ตรงกันข้าม กลับคึกคักหนักแน่นยิ่งในโฉมแห่ง”ก้าวหน้า”
ยิ่งบรรยากาศแห่งการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ยิ่งสะท้อนคุณภาพทางการเมืองของพรรคก้าวไกล
เมื่อประสานกับการเดินสายของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประสานกับการเดินสายของ นายธนา ธร จึงรุ่งเรืองกิจ
เน้นย้ำผ่านการแถลงของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ว่าคณะก้าวไกลจะส่งผู้สมัครชิงตำแหน่งสำคัญในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นไม่ต่ำกว่า 17 จังหวัด
กังวานแห่งคำขู่ “ระวังตัวไว้บ้างก็แล้วกัน” จึงกัมปนาทขึ้น
ถามว่าเป้าหมายในการรุกไล่พรรคอนาคตใหม่นับแต่หลังการเลือก ตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 คืออะไร
คือต้องการให้”หาย”ไปจากสารบบในทาง”การเมือง”
เล่นงานตั้งแต่ไม่ยอมให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้แสดงบท บาทในฐานะ ส.ส. เรื่อยไปจนหาเหตุนำไปสู่การตัดสินยุบพรรคอนา คตใหม่
ทั้งๆที่กรณีแบบเดียวกันนี้มีอยู่ใน”สารบบ”ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย
แต่ผลอันตามมาอย่างฉับพลันทันใดหลังจากการยุบพรรคเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 คือ การปรากฏขึ้นของ FLASH MOB
หากไม่มีการแพร่ระบาดของไวรัสมาช่วย ก็ยากยิ่งที่จะชี้ได้ว่าอนาคตทางการเมืองจะเป็นเช่นใด
ผลพลอยได้อย่างสำคัญจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสก็คือการประกาศและบังคับใช้พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเรื่อยมาจากเดือนมีนาคมจนถึงเดือนกรกฎาคม
เป้าหมายมิใช่ไวรัสอีกต่อไปแล้วหากแต่คืออะไร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รู้ดีที่สุด
รู้ดีเพราะ”สภาความมั่นคงแห่งชาติ” คือ “หัวหอก”ในเรื่องนี้
รู้ดีเพราะ “กระทรวงสาธารณสุข”มิได้เป็นคนออกหน้าในเรื่องประกาศและบังคับใช้สถานการณ์”ฉุกเฉิน”อีกแล้ว