| เผยแพร่ |
|---|
ปรากฎการณ์แห่ง CARE คิดเคลื่อนไทย กำลังจะกลายเป็นสัญญาณอันแหลมคมไม่เพียงแต่ในทาง “ความคิด” หากที่สำคัญเป็น อย่างมากคือในทาง “การเมือง”
ยิ่งอ่านคำแถลงของ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ยิ่งเห็นการอู้คำเมืองของ แขก คำผกา ยิ่งมีความเด่นชัด
เด่นชัดว่าการขับเคลื่อนครั้งนี้มีความต่อเนื่องอย่างเป็นระบบ
หากดูจากองค์ประกอบภายในของการก่อรูปขึ้นเป็น CARE คิดเคลื่อนไทย ก็จะสัมผัสได้ในการต่อยอดและพัฒนาการไม่เพียง แต่กระบวนการทางความคิด หากยังอยู่ที่เป้าหมายทางการเมือง
เหมือนกับจะเป็นการต่อยอดและพัฒนาจากความสำเร็จของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย ทั้งๆที่แท้จริงแล้วการต่อยอดและพัฒนาจากการเมืองทั้งระบบ
จากเมื่อเดือนมิถุนายน 2475 จากเมื่อเดือนตุลาคม 2516 และจากเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535
ตกผลึกมาอยู่ที่ CARE คิดเคลื่อนไทย ได้อย่างครบถ้วน
การที่ CARE คิดเคลื่อนไทย ได้บุคลากรอย่าง นายดวงฤทธิ์ บุน นาค ได้บุคลากรอย่าง นางวีรพร นิติประภา ได้บุคลากรอย่าง น.ส.ลักขณา คำวิชัย
ได้บุคลากรอย่าง นายพริษฐ์ รักตพงษ์ไพศาล เข้ามาอยู่ในฐานะอันเป็นแกนนำ
ประสานเข้ากับ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล
ประสานเข้ากับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นพ.สุรพงษ์ สืบ วงศ์ลี นายภูมิธรรม เวชยชัย
เด่นชัดอย่างยิ่งของการเชื่อม”รุ่นใหม่”เข้ากับ”รุ่นใหญ่”
เพราะรากฐานของ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รากฐานของ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รากฐานของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ ลี รากฐานของ นายภูมิธรรม เวชยชัย อุดมสมบูรณ์
โยงยาวไม่เพียงแต่เดือนตุลาคม 2516 หากแต่โยงยาวไปถึงเดือนมิถุนายน 2475
โยงยาวมายัง”เลือดใหม่”เปี่ยมด้วยพลังอย่าง นายดวงฤทธิ์ บุนนาค นางวีรพร นิติประภา น.ส.ลักขณา คำวิชัย และนายพริษฐ์รักตพงษ์ไพศาล
โดยมี VOICE TV เป็นหุ้นส่วน”พันธมิตร”
อย่าได้แปลกใจหากแต่ละ”ตัวอย่าง”ของการ LAUNCE เปิดตัวแม้จะเริ่มด้วยลีลาสุขุมนุมลึกในแบบ “รุ่นใหญ่” แต่ก็ปิดลงด้วยลีลาเร่าร้อนเปียมด้วยพลังของ”รุ่นใหม่”
ถามว่าเหตุใด CARE คิดเคลื่อนไทย จึง”เคลื่อน”ในเดือนมิ ถุนายน และเลือกประเด็นในทางเศรษฐกิจ นี่คือคำถาม
เป็นคำถามอันตามมาด้วยการวิเคราะห์อย่างหลากหลาย
