E-DUANG : การแยก แตกตัว ทางการเมือง ผ่าน CARE คิด เคลื่อนไทย

การเกิดขึ้นของ CARE คิด เคลื่อน ไทย แม้จะริ้วรอยแห่งความขัดแย้ง แต่ก็เป็นการขัดแย้งอันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงที่สำแดงออกในพรรคพลังประชารัฐ

เนื่องจากมิได้เป็นความขัดแย้งบนฐานแห่งตำแหน่ง บนฐาน แห่งการแย่งชิงผลประโยชน์

เพราะว่ามิได้มีเป้าหมายเพื่อจะเป็น “รัฐมนตรี”

ตรงกันข้าม หากมองว่าเป็นความขัดแย้งกระทั่งนำไปสู่การแยกตัวในทางการเมือง ก็มีพื้นฐานมาจากความขัดแย้งในทาง”ความคิด”

น่าสนใจก็ตรงที่เป็นความคิดบนหลักการที่ว่าอย่างไหนจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่ากัน

เพราะว่าในที่สุดแล้วการเกิดขึ้นของ CARE คิด เคลื่อน ไทย ประกาศแนวทางอย่างเด่นชัดว่าเป็นการต่อยอดความสำ เร็จของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย

เป็นการเสนอตัวว่าใครจะขับเคลื่อนเพื่อประชาชนได้มากกว่า

 

หากมองจากความจัดเจนในอดีต อุบัติแห่งนปช.ก็เป็นเช่นนี้ อุบัติแห่งพรรคไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อชาติ หรือแม้กระทั่งพรรคประชาชาติ ก็เป็นเช่นนี้

แม้ว่าจะมีร่องรอยแห่งความขัดแย้ง แต่ก็มิได้รุนแรง เสมอเป็นเพียงความเห็นต่าง

ทั้งยังเป็นความเห็นต่างในเรื่อง”วิธีการ” มิใช่”เป้าหมาย”

เพราะว่ายุทธศาสตร์ในทางความคิดของ CARE คิด เคลื่อนไทย ก็ยังเป็นอย่างเดียวกับพรรคเพื่อไทย ก็ยังเป็นอย่าง เดียวกับนปช.

นั่นก็คือ ยืนหยัดบนหลักการของ “ประชาธิปไตย” ไม่เห็นด้วยกับ “รัฐประหาร”

เพียงแต่ “รูปแบบ”ของการ”เคลื่อน”แตกต่างกันเท่านั้น

 

กระบวนการของ CARE คิด เคลื่อนไทย จึงเป็นอีกยุทธวิธีหนึ่งในการขับเคลื่อน เพื่อต่อสู้ในทางความคิด ต่อสู้ในทางการเมืองให้พัฒนาไปสู่ความเป็น”ประชาธิปไตย”

หากมองอย่างสร้างสรรค์ก็จะสัมผัสได้ในความเพียรอย่างเต็มกำลังของ CARE คิด เคลื่อนไทย

คือการต่อยอดจากความสำเร็จตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย มายังยุคพรรคพลังประชาชน มายังยุคพรรคเพื่อไทย หรือแม้กระทั่งของพรรคไทยรักษาชาติ

ประสานกันไปกับความสำเร็จของพรรคอนาคตใหม่และการแตกตัวออกมาเป็นคณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกล

นี่คือพัฒนาการทางการเมือง นี่คือการต่อยอดทางความคิด