เผยแพร่ |
---|
แนวคิดในการแยกตัวของพรรคเพื่อไทยแตกต่างไปจากปัญหาอันเกิดขึ้นไม่ว่าจะในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะในพรรคประชาธิปัตย์
มิได้เป็นปัญหาในเรื่อง “ตำแหน่ง” มิได้เป็นปัญหาในเรื่องแย่งชิงกันภายใน
พรรคพลังประชารัฐต้องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค พรรคประชาธิปัตย์ต้องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค เพราะประเมินว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงจะสร้างความคึกคักให้กับพรรค
แต่กรณีของพรรคเพื่อไทยมิได้ต้องการปลดหัวหน้าพรรค มิได้ต้องการปลดประธานยุทธศาสตร์พรรค หากแต่ต้องการสร้าง กลุ่มขึ้นมาเพื่อไปแจ้งเกิดใหม่
เป็นกระบวนท่าเหมือนที่เคยเกิดมาแล้วในกรณีของพรรคไทยรักษาชาติ เหมือนที่เกิดมาแล้วในกรณีพรรคประชาชาติ เหมือนที่เกิดมาแล้วในกรณีพรรคเพื่อชาติ
เพียงแต่คราวนี้เป็นกลุ่ม CARE เปี่ยมด้วยความห่วงใย
ถามว่าอุบัติแห่งพรรคไทยรักษาชาติสะท้อนให้เห็นความขัดแย้งในทางความคิดหรือไม่
ตอบได้ว่ามีความขัดแย้งดำรงอยู่
1 เป็นความขัดแย้งเนื่องแต่ปัจจัยของรัฐธรรมนูญ 1 เป็นความขัดแย้งในวิธีการทางการเมือง
โครงสร้างของรัฐธรรมนูญเด่นชัดอย่างยิ่งว่า ยิ่งพรรคเพื่อไทยประสบความสำเร็จจาก ส.ส.เขตมากเพียงใด โอกาสของระ บบบัญชีรายชื่อก็ริบหรี่
จึงจำเป็นต้องมีพรรคไทยรักษาชาติวางเป้าไปยังระบบบัญชี รายชื่อ จึงจำเป็นต้องมีพรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ วางเป้าไปยังระบบบัญชีรายชื่อ
เพียงแต่ด้วยอุบัติเหตุทางการเมืองทำให้พรรคไทยรักษาชาติ ต้องสะดุดถูกยุบก่อนการเลือกตั้ง ความคิดในแบบพรรคไทยรักษาชาติจึงยังคงอยู่
และนั่นก็ปรากฏผ่านการเคลื่อนไหวของกลุ่ม CARE
ปฏิกิริยาอันปะทุมาจากภายในพรรคเพื่อไทยเป็นปฏิกิริยาอันสา มารถเข้าใจได้
เข้าใจได้ผ่านตัวละครแต่ละตัวที่ออกอาการมึงวาพาโวย
เพราะว่ามีมุมมองอันแตกต่างกันตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักษา ชาติมาแล้ว เพียงแต่มีการขยับตัวของ CARE อาการตะกอนนอนก้นอยู่ก็ถูกกระพือ
นี่ย่อมเป็นภาระที่พรรคเพื่อไทยจะต้องบริหารจัดการ นี่ย่อม เป็นภาระที่กลุ่ม CARE จะต้องทำความเข้าใจ
เพราะพื้นฐานของ CARE ก็เปี่ยมด้วยความอาทรอยู่แล้ว