เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าการปรากฏขึ้นของ # ตามหาความจริง ดำเนินไปตามวงรอบและเทศกาล ไม่ว่าการปรากฏขึ้นของ “ป้ายผ้า” ดำเนินไปตามวงรอบและเทศกาล
โดยอย่างแรกเป็นวงรอบและเทศกาลเนื่องในวาระ 10 ปีของเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2553
โดยอย่างหลังเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2557 ครบ 10 ปี
เรียกตามสำนวนอันมาจากกระทรวงกลาโหม อันมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือ การแสดงออกเชิง”สัญลักษณ์”เป็นการเน้นย้ำในทาง “ความคิด”
เกิดขึ้นมาและก็ค่อยๆจางหายสลายไปเมื่อมีการแสดงออกใหม่เข้ามาแทนที่
กระนั้น กลไกแห่ง”อำนาจรัฐ”ก็ไม่ยอมให้”แสดงออก”
เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบตรูกันเข้าไปล้อม “ป้ายผ้า” ไม่ว่าจะเป็น ณ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็น ณ บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล
ไม่ว่าจะเป็น ณ บริเวณหน้าหอศิลป์ กทม. ไม่ว่าจะเป็น ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขอนแก่น
ก็เห็นลักษณะอันขึงขัง จริงจังของ”เจ้าหน้าที่”
เหมือนกับที่เคยขึงขังและจริงจังต่อกรณี”ขันแดง”ในเทศกาล สงกรานต์ และที่เคยขึงขังและจริงจังต่อกรณีปฏิทินซึ่งมีภาพของ นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ด้านหนึ่ง สะท้อนความเคร่งครัดต่อ”กฎหมาย” ด้านหนึ่ง สะท้อนความหวาดกลัวในทางการเมือง หวั่นว่าหากปล่อยให้ผ่านเลยก็จะกลายเป็น”แฟชั่น”แพร่ระบาด
ความหวาดกลัวต่างหากที่ทำให้สถานการณ์เชิงสัญลักษณ์เช่นนี้เป็นเรื่องอึกทึก ครึกโครม
6 ปีแล้วที่สังคมประเทศไทยตกอยู่ในสภาพการณ์เช่นนี้
หากประเมินว่า ปฏิบัติการ # ตามหาความจริง ปฏิบัติการ”ป้ายผ้า” ดำเนินไปตามเทศกาล 10 ปีพฤษภาคม 2553 และ 6 ปีพฤษ ภาคม 2557
ก็พอคาดได้เลยว่าพลันที่ย่างเข้าเดือนมิถุนายนจะต้องเกิดปรากฎการณ์คล้ายคลึงกันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
เพราะนั่นหมายถึงเหตุเมื่อ 24 มิถุนายน 2475 หวนมาเยือน
เนื่องจากเช้าตรู่ของวันที่ 24 มิถุนายน 2475 คือวันแห่งการ เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชมาเป็นระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ
วันนี้สำคัญอย่างยิ่งในทางประวัติศาสตร์ วันนี้สำคัญอย่างยิ่งในทางการเมือง
เป็นการเมืองอันต่อเนื่องจาก 6 ปีรัฐประหาร เป็นการเมืองอันต่อเนื่องจาก 10 ปีเหตุการณ์เมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคมซึ่งมีการสังหารประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตย