เผยแพร่ |
---|
การปรากฏขึ้นของ”ฤาษีเกวาลัน”แห่งเทือกเขาหิมาลัย เพื่อชี้ให้ถึง ชัยชนะและความสำเร็จของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวิกฤตแห่งการแพร่ระบาดของไวรัส
เหมือนกับเป้าหมายอย่างแท้จริงจะร่วมขบวนแห่ของปฏิบัติการ IO ต้านยันการรุกของ # ตามหาความจริง
ท่ามกลางความขัดแย้ง แตกแยก อันเกิดขึ้นและดำรงอยู่ภายในพรรคพลังประชารัฐ ท่ามกลางการมองอย่างหวาดระแวงจากพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย
จึงเด่นชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับว่า ปฏิบัติการจิตวิทยาอันมาจาก”ฤาษีเกวาลัน”แห่งเทือกเขาหิมาลัยครั้งนี้มุ่งที่จะปลุกระดมภายในพรรคพลังประชารัฐ ภายในรัฐบาลมากกว่า
กระนั้น การกำหนดวาระที่จะต้อง”ปรับครม.”ภายในเดือนมิถุนายนนั่นแหละจะกลายเป็นปม กลายเป็นประเด็น
เหมือนจะปลอบประโลมให้อดทนแต่เท่ากับ”จุดชนวน”ใหม่
แท้จริงแล้ว สถานการณ์ในเดือนพฤษภาคมดำรงอยู่ในลักษณะอันร้อนแรงเป็นอย่างยิ่ง เป็นความร้อนแรงจากภายในรัฐบาล เป็น ความร้อนแรงอันสัมผัสได้จากภายในพรรคพลังประชารัฐ
อย่างน้อยในแต่ละวันการดำรงอยู่ของ”กลุ่ม 4 กุมาร”ก็เป็นการดำรงอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงอันร้อนระอุ
ไม่เพียงแต่จะต้องหลบหน้าพวกเดียวกันที่ไม่เพียงแต่ส่งสาย ตาให้ “เสียสละ” หากแต่บางคนอันรู้อยู่เด่นชัดเป็น”คนของนาย”ก็ถึงกับออกปากกดดันโดยตรง
เป้าหมายคือเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค
ไม่ว่าการปล่อยข่าวเรื่องการทยอยลาออกจากกรรมการบริหาร ไม่ว่าการปล่อยข่าวเรื่องรัฐมนตรีบางคนใช้เงินกองทุนของกระทรวงสร้างมุ้งตั้งกลุ่ม
เหล่านี้ล้วนมีเป้าหมายเดียว คือ การบ่อนเซาะรุกไล่ต่อเก้าอี้ของ “กลุ่ม 4 กุมาร”
การงัดเอา”ฤาษีเกวาลัน”ส่งเสียงมาจากเทือกเขาหิมาลัยก็มุ่งหวังที่จะทำให้ปัญหาความขัดแย้ง แตกแยกที่เกิดขึ้นและดำรงอยู่ภายในพรรคพลังประชารัฐสงบลง
แต่ความสงบที่ดำเนินไปในลักษณะชี้นำว่าการปรับครม.จะต้องเกิดขึ้นภายในเดือนมิถุนายนไม่สามารถเกิดขึ้นได้
เพราะนี่เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณใหม่ในทางการเมือง
เป็นการส่งสัญญาณในเชิงยอมรับว่า การปรับครม.เป็นหนทางที่จะต้องบังเกิดขึ้นอย่างแน่นอนภายในเดือนมิถุนายน ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้
เท่ากับชี้ชัดว่าเวลาของ”กลุ่ม 4 กุมาร”เหลืออีกเพียงไม่กี่เดือนข้างหน้า