การดำรงอยู่และการจากไปของ นายอุตตม สาวนายน ในตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เหมือนการดำรงอยู่และการ จากไปเฉพาะส่วน

แต่เนื่องจาก นายอุตตม สาวนายน มิได้ดำรงอยู่อย่างเป็นดั่ง “ดาวฤกษ์”ในทางการเมือง หากเสมอเป็นเพียง”ดาวเคราะห์”

เป็นการดำรงอยู่ในนามแห่ง”กลุ่ม 4 กุมาร”

เป็นกลุ่ม 4 กุมารอันประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล

แรกที่ปรากฏก็ดำเนินไปในรูปเงาแห่งความเป็น”ดรีมทีม เศรษฐกิจ”

แต่เมื่อเป็น”ดาวเคราะห์”จึงดำรงอยู่ในลักษณะ”พึ่งพา”

 

คำถามสำคัญในทางการเมืองก็คือ 1 การดำรงอยู่ของ ”ดรีมทีม เศรษฐกิจ” อยู่ภายใต้การกำกับของผู้ใด 1 การดำรงอยู่ของ”ดรีม ทีม เศรษฐกิจ”รับใช้ใครในทางการเมือง

แม้จะไม่มีการยืนยันแต่ก็รับรู้กันว่า “ดรีมทีม เศรษฐกิจ”แนบ แน่นอยู่กับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์

และทำงานรับใช้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ได้รับความไว้วางใจตั้งแต่หลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ต่อเนื่องมาแม้กระทั่งหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือน มีนาคม 2562

และประสบปัญหาในเรื่องฝีมือและความสามารถในสถาน การณ์อันแหลมคมของการแพร่ระบาดแห่งไวรัส โควิด-19 นับแต่เดือนมกราคม 2563 เป็นต้นมา

ปัจจัยหลังนี้เองที่มีส่วนอย่างสำคัญต่ออนาคตของ “ดรีมทีม เศรษฐกิจ” ต่ออนาคตของ”กลุ่ม 4 กุมาร”ในพรรคพลังประชารัฐ

 

หากติดตามสภาพการณ์ที่ “กลุ่ม 4 กุมาร”ประสบภายในพรรคพลังประชารัฐ ก็เด่นชัดว่าสมุหฐานแห่งการเปลี่ยนแปลงเป็นผลจาก 2 ปัจจัยสำคัญ

1 คือ ปัจจัยอันเนื่องแต่การแบ่งสันปันตำแหน่งทางการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ

1 คือ ปัจจัยความล้มเหลวในสถานะแห่ง”ดรีมทีม เศรษฐกิจ”

ความจริงก็ล้มเหลวตั้งแต่หลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 มาแล้ว แต่เพิ่งมีผลชี้ขาดเมื่อประสบเข้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส

จำเป็นต้องตัด “กลุ่ม 4 กุมาร”ในสถานะแห่ง”ดรีมทีม เศรษฐ กิจ”ออกไปจากวงจร

เข้าทำนอง”เปลี่ยนม้ากลางลำธาร”ในทางการเมือง