E-DUANG : อนิจจัง แห่งสถานะ “โฆษก” ดำรงอยู่ ในสถานะ “หุ่นเชิด”

ไม่เพียงแต่โกวเล้งจะสรุปอย่างรวบรัดว่า “ยุทธจักรไม่เป็นตัวของ ตัวเอง” หากแม้กระทั่งการดำรงอยู่ในสถานะแห่ง”โฆษก”ก็อาจฟันธงได้ว่า ยากที่จะสามารถเป็นตัวของตัวเองได้

ไม่ว่าจะเป็นยุคของ “พ.อ.”คนดังจากกองทัพบก ไม่ว่าจะเป็น ยุค “จิตแพทย์”คนดังจากกระทรวงสาธารณสุข

ล้วนตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน คือ มิอาจเป็นตัวของตัวเอง

ยิ่งหากได้รับการผลักดันให้เข้าดำรงตำแหน่งเป็น”โฆษก”ตกอยู่ในแสงแห่งสปอตไลต์ กลายเป็น”คนดัง”อันโดดเด่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ยิ่งทำให้ตกอยู่ในความเพริศมีโอกาสเตลิดและเหลิงลอยลมไปกับสถานะใหม่อันได้รับการหนุนเสริม

หารู้ไม่ว่านั่นเสมอเป็นเพียง”มายา”หาได้”จริง”แต่อย่างใด

 

การเรียกขานว่าเป็น”โฆษก”ก็มีความเด่นชัดโดยรูปศัพท์แล้วว่ามีสถานะเป็นอย่างไร นั่นก็คือ มีฐานะเป็นผู้ส่งเสียงที่แม้จะเป็นเสียง ของตนแต่เป็นการดำรงอยู่ในสถานะอันเป็น”ตัวแทน”

สถานะแห่งความเป็น”ผู้ประกาศ”จึงมิได้เป็นการประกาศโดยตน หากแต่เป็นเส้นทางผ่านจากที่อื่น

เมื่อเป็นโฆษกให้กับ “ศอฉ.” รายละเอียดของคำแถลงก็ย่อมดำเนินไปตามมติภายในที่ประชุมของ”ศอฉ.”จะเป็นผู้กำหนดต้องแถลงอย่างนั้น ต้องตอบอย่างนี้

เมื่อเป็นโฆษกให้กับ “ศบค.” รายละเอียดของคำแถลงก็ย่อม ดำเนินไปตามมติภายในที่ประชุมของ”ศบค.”จะเป็นผู้กำหนดต้องแถลงอย่างนั้น ต้องตอบอย่างนี้

ทั้งหมดนี้จึงมิได้เป็นเรื่อง “ส่วนตัว” ทั้งหมดนี้จึงดำเนินไปในลักษณะอันเป็น “ตัวแทน”

แม้กระทั่ง”จอมยุทธ์”ยังไม่เป็นตัวเอง แล้ว”โฆษก”รอดหรือ

 

บทเรียนของการเป็น”โฆษก”นั้นมิได้มีแต่จากกรณีของ”ศอฉ.” หากแต่ยังมีตัวอย่างให้ได้ศึกษาอีกจำนวนมากมาย ไม่ว่าในกรณี ของ”รสช.” ไม่ว่าในกรณีของ”คมช.”และในกรณีของ”คสช.”

ภายหลังจากสถานการณ์นั้นๆหาก “นาย”สามารถเดินหน้าไปได้โดยราบรื่น

สถานะของตนก็พลอยราบรื่นไปได้ระยะหนึ่ง

อาจได้รับการปูนบำเหน็จากที่เคยครองยศเพียง”พ.อ.”สามารถไต่ทะยานไปยัง “นายพล” ได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่เมื่อหมดบทบาท จบภาระหน้าที่แล้ว

ก็จำเป็นต้อง”เร้นกาย” อยู่อย่างเงียบๆ มิอาจทำตัว”ซ่า”ได้ดุจเดียวกับที่เคยเกาะ”โพเดียม” ทั้งหมดล้วนเป็นไปอย่างที่โกวเล้งได้สรุปเอาไว้อย่างรวบรัด

นั่นก็คือ มิอาจเป็นตัวของตัวเอง เพราะเป็นเพียงทางผ่าน