E-DUANG : ปัจจัย จาก รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ปัจจัยล่าม ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ความคิดในการเปลี่ยนตัว “นายกรัฐมนตรี” จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา เป็นคนอื่น กำลังกลายเป็นอีก TREND หนึ่งซึ่งมีโอกาสพัฒนาขึ้นเป็น “กระแส”

เหมือนกับความรู้สึกนี้จะสำแดงออกอย่างเป็นกลุ่มก้อนผ่านเสียง ตะโกน “ออกไป ออกไป”อันดังกระหึ่มใน Flash Mob

ตั้งแต่ปรากฎครั้งแรกในเดือนธันวาคม ๒๕๖๒

และดังกึกก้องอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นที่ธรรมศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นที่จุฬาฯ ไม่ว่าจะเป็นที่ปัตตานี ไม่ว่าจะเป็นที่เชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นที่อุบลราชธานี ไม่ว่าจะเป็นที่ชลบุรี นครปฐม

และที่สุดก็เริ่มดังมาจากบุคคลประเภท”ลุงเสรี” บุคคลประเภท”ป้าอุ๊” บุคคลประเภท”ลุงดี้”

ส่วนหลังนี้ต่างหากที่น่าสยดสยองเป็นอย่างสูง

 

รูปธรรมหนึ่งซึ่งสามารถแสดงอุณหภูมิที่ขัดแย้งในสังคมออกมาอย่าง เด่นชุด คือ รูปธรรมภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แถลงพร้อมกับคำประกาศ

“ประเทศไทยจะต้องชนะ” พร้อมกับชู ๒ มือขึ้น

หากฟังจาก นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ที่บอกว่าประชาชนรู้สึกสบายใจหลังฟัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แถลง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องยิ้มแป้น

ขณะเดียวกัน หากฟังจาก นายนิติพงศ์ ห่อนาค ซึ่งอยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็อาจจะนอนไม่หลับ

เพราะมิได้วิพากษ์แต่เพียง”เนื้อหา”การพูด หากวิพากษ์แม้กระทั่งฉากหลังและหน้าตาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ก็ต้องรู้สึกว่าถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องอำลา

 

ข้อเสนอและข้อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วางมือในทาง การเมืองเป็นเรื่องใหญ่อย่างยิ่ง

ทั้งเป็นเรื่องใหญ่ที่ยากจะเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย

ไม่เพียงเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่สุกงอม หากที่สำ คัญเป็นอย่างมากก็เหมือนที่ ดร.เกษียร เตชะพีระ เคยสรุปว่า

มีหลายปัจจัยทางการเมืองไม่ยอมให้ไป

ปัจจัยสำคัญเป็นอย่างมากก็เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกล่ามไว้ด้วยเครื่องเคราที่ตนเองเป็นผู้สร้างขึ้น

นั่นก็คือ รัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๖๐