| เผยแพร่ |
|---|
การแพร่กระจายออกไปของ FLASH MOBอาจเป็นเรื่องเหลือเชื่อ หากมองจากสายตาของ “ลุงเสรี” หากมองจากสายตาของ “ป้าสินจัย”
ไม่ว่าจะเป็นที่ “ท่าพระจันทร์” ไม่ว่าจะเป็นที่ “ศาลายา”
พวกเขาลุกขึ้นมาประกาศด้วยความมั่นใจว่า ไม่ได้ต่อสู้เพื่อพรรค อนาคตใหม่ หากแต่ “เรากำลังต่อสู้เพื่ออนาคตของพวกเราเอง”
ยืนยันหลักการ “อนาคตเรากำหนดเอง”
นี่คือการยืนยันอย่างเป็นรูปธรรมว่า ความเชื่อในเรื่อง “กรรมเก่า” ความเชื่อในเรื่อง “พรหมลิขิต” เริ่มถูกท้าทาย
นี่เป็นเรื่องของ “คนรุ่นใหม่” โดยแท้
ไม่ว่าจะเป็น “ลุงเสรี” ไม่ว่าจะเป็น “ป้าสินจัย” เมื่อได้ยินคำประกาศก็ย่อมจะสะเทือนใจ
อุทานวลีที่ว่า “อกอีแป้นจะแตก”ออกมาดังกังวาน
เป็นไปได้หรือที่ชั่วเวลาเพียง ๑-๒ ปีแห่งการกำเนิดขึ้นของพรรคอนา คตใหม่จะสามารถสร้างปรากฏการณ์ทางความคิด สร้างปรากฏการณ์ ทางการเมืองได้ถึงเพียงนี้
ตอบได้ทั้งใช่ ตอบได้ทั้งไม่ใช่
ที่ว่าไม่ใช่เพราะปฏิบัติ”ปักธง”ในทาง”ความคิด”เช่นนี้เกิดขึ้นและดำรงอยู่นานมาแล้ว
ตั้งแต่ ร.จันทนพิมพะ ตั้งชื่อหนังสือ”เราลิขิต”
ตั้งแต่ บรรจง บรรเจิดศิลป์ ได้รจนาหนังสือเล่มแรก “ชีวิตกับความใฝ่ฝัน”
อันเท่ากับมอบโลกทั้งโลกให้อยู่ในมือของ”เยาว์ ที่รัก”
ที่ว่าใช่เพราะว่าพรรคอนาคตใหม่มิได้ทำงานการเมืองอย่างเดียว ตรงกันข้ามบทบาทสำคัญที่ประกาศตั้งแต่ต้นคือปักธงความคิด
ความคิดภายใต้คำขวัญ “อนาคตเรากำหนดเอง”
พลันที่มีการยุบพรรคอนาคตใหม่ พลันที่เห็นความบิดเบี้ยวของหลัก การในห้วงแห่งการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๖๒
ภาพแห่งการสืบทอดอำนาจก็ปรากฏอย่างเด่นชัด
ภาพแห่งการรัฐประหาร ภาพแห่งการจัดวางกฎและกติกาเพื่ออำ นวยประโยชน์ให้กับตนเองก็เรียงแถวกันเข้ามาเหมือนภาพจอกว้างอัน ตระการตา
ความจริงในทางการเมือง ความจริงที่พรรคอนาคตใหม่ได้คาดทำนายก็แจ่มชัดในครรลองแห่งความนึกคิด
ความนึกคิดของนิสิตนักศึกษา ความนึกคิดของคนรุ่นใหม่
