E-DUANG : ​​​นิวคัมเมอร์ บนสนาม การเมือง ​​​หลัง คำสั่งยุบ “อนาคตใหม่”

มีความแตกต่างระหว่างการยุบพรรคไทยรักไทย การยุบพรรคพลังประ ชาชน การยุบพรรคไทยรักษาชาติ และการยุบพรรคอนาคตใหม่ อย่างแน่นอน

เป็นความแตกต่างในเรื่องผลสะเทือนและความต่อเนื่องในทางการเมือง

เมื่อยุบพรรคไทยรักไทยก็เกิดพรรคพลังประชาชน เมื่อยุบพรรคพลังประชาชน ทางหนึ่งก็เกิดพรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกัน ก็มีการเคลื่อนไหวมวลชน

เมื่อยุบพรรคไทยรักษาชาติมีการจัดตั้ง”กลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชา ธิปไตย”เดินสายปราศรัย และจบสิ้นบทบาทภายหลังการเลือกตั้งเดือนมีนาคม ๒๕๕๗

แล้วยุบพรรคอนาคตใหม่เกิดอะไรตามมา

 

อย่างหนึ่งคือการเดินหน้าต่อสู้ในรัฐสภาต่อไปโดยกลุ่ม ส.ส.ที่ไม่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง

เป็นการต่อสู้โดยมี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นหัวขบวน

อย่างหนึ่ง คือคำประกาศของกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิในทางการเมือง นั่นก็คือ คำประกาศจัดตั้ง”คณะอนาคตใหม่”เป็นคนละเรื่องคนละงานกับพรรคอนาคตใหม่

เป็นการเคลื่อนไหวทางความคิด ทางการเมืองภายนอกระบบรัฐสภา

อย่างหนึ่ง คือการเคลื่อนไหวของมวลชน ซึ่งไม่สามารถถือได้ว่าเป็นการจัดตั้งแบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นจากอดีต หากแต่เด่นชัดว่าน่าจะเป็นมวลชนซึ่งได้รับผลสะเทือนในทางความคิดมาจากพรรคอนาคตใหม่

เป็นนิสิต เป็นนักศึกษาและเคลื่อนไหวตาม”มหาวิทยาลัย”

 

ไม่ว่าจะมองไปยัง ส.ส.ที่นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ว่าจะมองไปยังมวลชนที่เคลื่อนไหวเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับมาตรการยุบพรรคอนาคตใหม่

อาจถือได้ว่าเป็นคนใหม่ อาจถือได้ว่าเป็นเลือดใหม่ในทางความคิด ในทางการเมือง

อาจมีการเปรียบบทบาทของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กับบทบาทที่ผ่านมาของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อาจมีการเปรียบบทบาทของนิสิต นักศึกษา กับบทบาทของมวลชนที่เคยเคลื่อนไหวในอดีต

นี่ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาอย่างปรกติยิ่งกับทุกปรากฏการณ์ในทางการเมือง