E-DUANG : ภาพของ วอร์รูม ๒๒ อรหันต์ เบื้องหน้า โพรเจ็กค์ พิน็อคคิโอ

ทั้งๆที่รัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐตระเตรียมแนวรับ แนวรุก เอาไว้อย่างพร้อมมูล ไม่ว่าจะเป็นองครักษ์อย่างที่เรียกว่า “คณะ อ.ส.ว.” ไม่ว่าจะเป็นองค์รักษ์อย่างที่เรียกว่า”วอร์รูม ๒๒ อรหันต์”

แต่เหตุใดสังคมกลับขานรับและตื่นเต้นกับแนวรับ แนวรุกของรัฐ บาลและพรรคพลังประชารัฐน้อยมาก

พรรคเพื่อไทยถึงกับเห็นว่าเป็น “เรื่องตลก”

เป็นเรื่องตลกเมื่อเห็นภาพ นายจำลอง ครุฑขุนทด เป็นเรื่องตลกเมื่อเห็นภาพ นายอำนวย คลังผา เป็นเรื่องตลกเมื่อเห็นภาพ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์

ยิ่งพรรคอนาคตไทย ยิ่งมองข้ามไม่ว่าจะเป็น”คณะอ.ส.ว.”ไม่ว่าจะเป็น “วอร์รูม ๒๒ อรหันต์”ไปโดยสิ้นเชิง

เห็นว่าเป็นเรื่อง”เอ๊าต์” เห็นว่าเป็นเรื่อง”ตกกระแส”

 

หากย้อนกลับไปดูปฏิบัติการของพรรคอนาคตใหม่ในการอภิปรายรัฐบาลในการแถลง”นโยบาย”ก็จะสัมผัสได้ในสิ่งอันเป็นนวัตกรรมในทางการเมืองอย่างเด่นชัด

บทบาทของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล เด่นชัดอย่างยิ่งในฐานะอันเป็นกองหน้า เป็นผู้เปิดยุทธการ

มอง”ภาพรวม”ทั้งหมดของ “นโยบาย”

ขณะเดียวกัน บทบาทของ นายวิโรจน์ ลักขณาวิชัย ในฐานะคนทำหน้าที่ในการสรุปเท่ากับเป็นการแจ้งเกิดในทางการเมือง

ถามว่าเป็นการอภิปรายตรงเป้า ตรงประเด็นหรือไม่

ตอบได้เลยว่า ตรงเป้า ตรงประเด็น นำเอาตัว”นโยบาย”มาจำแนกแยกแยะอย่างเป็นระบบ ฉายโฉมและความเป็นจริงของรัฐบาล ล่อนจ้อน

ล่อนจ้อน รุนแรง แต่ไม่อาจประท้วงหรือโต้แย้งได้

 

พลันที่”ปฏิบัติการ พิน็อคคิโอ”ของพรรคอนาคตใหม่ ประสานเข้ากับ   “ยุทธการรุ่งอรุณ”ของพรรคเพื่อไทย

เชื่อได้เลยว่าอาการนะจังงังจะต้องบังเกิดในทางการเมือง

เป็นความนะจังงังจาก”คณะ อ.ส.ว.” เป็นเบื้องต้น เป็นความนะจังงังจาก”วอร์รูม ๒๒ อรหันต์”เป็นเบื้องกลาง

และที่หนักอย่างที่สุดคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นี่คือการปะทะทางการเมืองในเวทีรัฐสภาระหว่างนวัตกรรมใหม่กับโบราณวัตถุทางการเมือง

      แทบไม่มีประโยชน์อะไรในการคุ้มครอง คสช.และประยุทธ์