E-DUANG : ​กระแส ต้าน ยุบ อนาคตใหม่ ไม่เชียร์ แต่ไม่ต้องการทำลาย

ปฏิบัติการเคลื่อนไหวคัดค้านการยุบพรรคอนาคตใหม่ เป็นปฏิบัติการอันเริ่มอย่างกะทันหัน

กะทันหันจากวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ “วันวาเลนไทน์”

จุดแห่งปฏิบัติการมาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยการลงมืออย่างเต็มเรี่ยวแรงของ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี

ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ แนบแน่นกับพรรคอนาคตใหม่อย่างไรมิได้เป็นความลับ

แต่การที่มีคนอย่าง นายบรรยง พงษ์พานิช ร่วมลงชื่อ

และการที่มีคนอย่าง นายปรีดา เตียสุวรรณ์ คนอย่าง นายพนัส ไทยล้วน ร่วมลงชื่อด้วย

สร้างความตื่นเต้นให้กับพรรคอนาคตใหม่เป็นอย่างมาก

 

คนที่สร้างความตื่นตะลึงให้เป็นอย่างมากอีกคนหนึ่งน่าจะเป็น นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล

เพราะชื่อๆนี้เก็บตัวเงียบและระมัดระวังตัวเป็นอย่างสูง

ระมัดระวังตัวไม่ให้ถูกดึงเข้าไปฝักใฝ่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ระมัดระวังตัวเพราะดำเนินชีวิตในแบบ”ปลีกวิเวก”ให้ความสนใจกับจิตวิญญาณมากกว่าการเมือง

การปรากฏตัวและแสดงความเห็นก็เป็นไปในแบบวิชาการไม่ว่าตัวเนื้อหาหรือสถาบันที่เป็นเจ้าภาพ

ไม่เคยปรากฏตัวกับกลุ่มการเมืองใดก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน ๒๕๔๙ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนรัฐประหารเดือนพฤษ ภาคม ๒๕๕๗

แต่ครานี้ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคอนาคตใหม่

 

มีความจำเป็นต้องนำเอาแต่ละรายชื่อที่ร่วมรณรงค์เพื่อคัดค้านการยุบ พรรคอนาคตใหม่มาสังเคราะห์อย่างจริงจัง

บางส่วนของคนลงชื่ออาจชอบพรรคอนาคตใหม่

แต่มีจำนวนไม่น้อยเคยแสดงบทบาทร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

จำนวนไม่น้อยเคยร่วมกับมวลมหาประชาชน

แต่ละรายชื่อสะท้อนให้เห็นการแปรเปลี่ยนในทางความคิด แปรเปลี่ยนในทางการเมือง

ที่สำคัญคือ อยากเห็นบทบาทที่เป็นคุณของพรรคอนาคตใหม่