เผยแพร่ |
---|
ไม่น่าเชื่อว่าเพียงไม่กี่เดือนสถานะของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอ ชา อันมั่นใจกันว่าคือ “เรือเหล็ก” จะประสบกับสภาวะอันคลอนแคลน ร่อแร่ได้ถึงระดับนี้
โดยเฉพาะเมื่อประสบเข้ากับสถานการณ์”เสียบบัตรแทนกัน”จากฝีมือและการขุดคุ้ยของพรรคร่วมรัฐบาล
ขณะที่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านก็จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ กระหน่ำด้วยหมัดอันดุเดือดรุนแรงและเข้มข้น
ผลสะเทือนจากกรณี”เสียบบัตรแทน”อาจทำให้ร่างพรบ.งบประ มาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 อาจกลายเป็นโมฆะอาจนำไปสู่ทางเลือก 2 ทางเลือก
1 ลาออก 1 ยุบสภา
อย่าคิดว่าญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจเป็นเรื่อง เล็ก เพราะหากญัตตินี้ประสานเข้ากับสภาพการณ์ของรัฐบาลที่โยก เยกคลอนแคลนในปัจจุบัน
โดยเฉพาะความหงุดหงิด ไม่พอใจระหว่างพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์
การแยกและแตกตัวในทางการเมืองย่อมตามมา
โดยเฉพาะเมื่อปลายหอกของพรรคฝ่ายค้านมิได้เหวี่ยงออกไปใน แบบสะเปะสะปะ ไร้ทิศทาง ตรงกันข้าม เป้าหมายอย่างแท้จริงคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
โดยกวาดรวมเอารัฐมนตรีในเครือข่ายคสช. ในเครือข่ายพรรคพลังประชารัฐมาเป็นเหมือนกระดานหกทะยานไปทำลาย พล.อ.ประ ยุทธ์ จันทร์โอชา โดยตรง
ภาวะแตกและแยกตัวในทางการเมืองย่อมจะตามมา
แม้ตามธรรมนิยมในทางการเมืองเมื่อใดที่รัฐบาลประสบปัญหาตกอยู่ในสภาพคลอนแคลนทางเลือกก็ย่อมจะนำไปสู่ 1 ปรับครม. 1 ลาออก และ 1 ยุบสภา
แต่กล่าวสำหรับรัฐบาลในแบบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่แน่ว่าจะเลือกใน 3 หนทางนี้
เพราะยังมีอีกหนทาง 1 ซึ่งเคยชิน นั่นก็คือ รัฐประหาร
แต่คำถามที่เสนอเข้ามาก็คือ นี่เท่ากับซ้ำไปในรอยรัฐประหารเมื่อปี 2549 และรัฐประหารเมื่อปี 2557
แน่ใจหรือไม่ว่าจะเป็นไปได้ด้วยความราบรื่นเหมือนที่ผ่านมา