เผยแพร่ |
---|
คำประกาศจากพรรคอนาคตใหม่ที่จะยื่นญัตติด่วนจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการป้องกันการรัฐประหาร คือ การรุกทาง การเมืองอีกก้าว
แม้จะล้มเหลวจากความพยายามเสนอญัตติด่วนจัดตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาประกาศคำสั่งคสช.
คล้ายกับพรรคอนาคตใหม่ช่วงชิงโอกาสที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยกคำร้องคดีล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย หรือที่เรียกว่า”คดีอิลลูมินาติ”
แต่ในความเป็นจริงญัตติใหม่นี้มิได้เพิ่งคิดขึ้นตรงกันข้ามได้ยื่นไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎรนานแล้ว และได้เวลาอันเหมาะสมในการ บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระเท่านั้น
นี่คือญัตติที่จะตรวจสอบจิตวิญญาณแห่ง”ประชาธิปไตย”อีกครั้ง
หากพิจารณาจากคำแถลงปิดคดีอิลลูมินาติที่พรรคอนาคตใหม่นำเสนอในห้วงแห่งการพิจารณาวินิจฉัย ประสานกับคำแถลงหลาย ต่อหลายครั้งจากพรรคอนาคตใหม่
ประสานกับญัตติด่วนโดยเฉพาะการจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาประกาศและคำสั่งคสช.
ประสานกับ”นโยบาย”ของพรรคอนาคตใหม่
ก็จะมองเห็นว่า นี่คือกระบวนการในทางความคิดที่เริ่มนโยบาย ปฏิรูปกองทัพ โดยรูปธรรมสำคัญก็คือ แยกกองทัพออกจากการเมือง ทำกองทัพให้เป็นสถาบันทางทหารมืออาชีพ
เพราะว่าการล้มล้างระบอบประชาธิปไตยที่เกิดขึ้นนับแต่เปลี่ยน แปลงการปกครองเมื่อเดือนมิถุนายน 2475 เป็นต้นล้วนมาจากการรัฐประหาร
และผู้ที่จะทำรัฐประหารได้ก็คือทหาร ก็คือกองทัพ
พลันที่ญัตติด่วนจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการป้องกันการรัฐประหารเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร ก็เท่ากับเป็นการตรวจสอบอย่างมีนัยสำคัญ
เป้าหมายสำคัญคือ ตรวจสอบพรรคการเมือง ตรวจสอบนักการเมือง
ใครเห็นด้วยกับรัฐประหาร ใครไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร
ที่แหลมคมเป็นอย่างยิ่ง คือนำเอารัฐประหารแต่ละครั้งในประวัติ ศาสตร์การเมืองของไทยมาสังเคราะห์ วิเคราะห์
ชี้ให้เห็นว่ารัฐประหารคือปรปักษ์แห่งระบอบประชาธิปไตย