เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าความหวาดกลัวต่อ FLASH MOB ไม่ว่าความหวาดกลัวต่อกิจกรรม”วิ่งไล่ลุง” ไม่ว่าความหวาดกลัวต่อการปรากฏตัวของพรรคอนาคตใหม่ในท่ามกลางวงล้อมของชาติพันธุ์
ทั้งที่พบพระ ตาก ทั้งที่อมก๋อย เชียงใหม่ ทั้งที่เข็กน้อย เพชรบูรณ์
เป็นความหวาดกลัว 1 จากความไม่เข้าใจ และ 1 จากฝันร้ายของ การชุมนุมในกาลอดีต
อดีตเดือนตุลาคม 2516 อดีตเดือนพฤษภาคม 2535
อดีตก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 อดีตก่อนการล้อม ปราบเมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 อดีตก่อนรัฐประหารเมื่อ เดือนพฤษภาคม 2557
ฝันร้ายจากอดีตนั้นเองที่ตามมาหลอกหลอนบนพื้นฐานแห่งความไม่เข้าใจต่อสถานการณ์การเมืองที่เปลี่ยนไป
ยอมรับเถิดว่าภายหลังการเข้ามาของพรรคอนาคตใหม่ ภายหลังการเข้ามาของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช
และโดยเฉพาะภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 การ เมืองได้พลิกโฉมไปเป็นอย่างมาก
ด้วยชัยชนะอันได้มาซึ่ง ส.ส. 80 กว่าคน
เป็นชัยชนะของการเมืองใหม่บนพื้นฐานแห่งคะแนนเสียงที่มากกว่า 6.2 ล้านคะแนนจากทั่วประเทศ
แต่เมื่อประสบกับปรากฏการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ กลุ่ม”อำ นาจนำ” กลับไปยอมรับในความเปลี่ยนแปลง ยังคงใช้วิธีวิทยาและ มาตรการเดิมในทางการเมือง
ทั้งๆที่วิธีการเดิมที่เคยใช้กับพรรคไทยรักไทย เคยใช้กับ นายทักษิณ ชินวัตร ก็มิได้ประสบความสำเร็จ
มาตรการที่ใช้ในการกำกัด จำกัด กำจัด ไม่ว่าที่เริ่มก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าที่นำมาใช้อีกครั้งภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562
เด่นชัดอย่างยิ่งว่า ไม่ WORK ไม่มีผลในทางเป็นจริง
กำกัดได้ จำกัดได้ กำจัดได้ แต่ไม่สามารถ “ขจัด” ให้หมดสิ้นไปโดยสิ้นเชิง
เพราะเป็นกระบวนการ”ปราบปราม” มิได้เป็น”การต่อสู้”
การปราบปรามอาจมีผลในทาง”กายภาพ” แต่เมื่อไม่มีการต่อสู้จึงยังดำรง “ความคิด”อันเป็นจิตวิญญาณอยู่
จึงเท่ากับต้องกลายเป็น “เสียของ”และ”เสียคน”
เป็นรัฐประหาร “เสียของ” และคนที่ทำรัฐประหารอาจต้องกลายเป็น “เสียคน”