เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่ากิจกรรม”วิ่งไล่ลุง”จะประสบความสำเร็จ สามารถเดินหน้าจัดได้ ตามเป้าหมายหรือไม่
แต่หากในด้าน”การข่าว”ถือว่า WORK
ต้องยอมรับว่าชื่อกิจกรรม”วิ่งไล่ลุง”อยู่ในแสงแห่งสปอตไลต์แทบ ทุกวัน
หากไม่มาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หากาไม่มาจาก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แต่ละก้าวย่างของตำรวจในร่มเงา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ก็สานต่อ
สัมผัสได้จากการรุกเข้าไปสกัดยังสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ สัมผัสได้จากการรุกเข้าไปสกัดยังโรงแรมหนึ่งย่านถนนราชดำเนินมิให้มีการแถลงข่าว”วิ่งไล่ลุง”
อาจสรุปได้ว่า “วิ่งไล่ลุง” ยึด “พื้นที่”ทางการเมืองได้อย่างคึกคัก
ถามว่า “ปฏิกิริยา”อันมาจากลุงๆทั้งหลายทั้งหมดนี้สะท้อนนัยยะอะไรในทางการเมือง
ตอบได้เลยว่า เพราะลุงๆอยู่ในความหวาดกลัว
เมื่อกลัวว่ากิจกรรม”วิ่งไล่ลุง”จะสามารถเดินหน้าไปได้ก็ย่อมจะต้องหาวิธีสกัดและขัดขวาง บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาก็ต้องออกแรกกันอย่างเต็มที่
หารู้ไม่ว่ากรรมวิธีเช่นนั้นเท่ากับไปช่วยในการประโคมโหมให้ชื่อของ “วิ่งไล่ลุง”ติดอันดับ
โดยเฉพาะเมื่อเข้าไปกดดันสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย ในอีกด้านจึงเท่ากับเป็นการทำให้กิจกรรม”วิ่งไล่ลุง”โกอินเตอร์
เหมือนกับที่เคยวิ่งไล่จับ”ขันแดง”ในห้วงสงกรานต์ เหมือนกับที่เคยวิ่งไล่จับ”ปฏิทิน”ในห้วงปีใหม่
จึงเท่ากับว่าบรรดาลุงๆอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่าง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อย่าง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา นั่นแหละ
ที่ผันตนเองไปเป็น “พี่อาร์” ช่วย”ประชาสัมพันธ์”ให้กับบรรดาหลานๆโดยอัตโนมัติ
ตัวอย่างล่าสุด คือการกดดันมิให้วิ่งตามกำหนดเดิมที่วางไว้
หากสามารถทำให้กิจกรรม”วิ่งไล่ลุง”ต้องถอยออกจากถนนราชดำเนินได้ตามเป้าหมาย
ก็มิอาจตอบได้ว่า “ชัยชนะ” หรือว่าเป็น”พ่ายแพ้”