เผยแพร่ |
---|
เหมือนกับการถอนตัวจากกรรมาธิการของธนาธรจะเป็นการถอยแต่พลันที่ประกาศผ่าน”ธนาธรไลฟ์”ในตอนค่ำ
ก็เด่นชัดอย่างยิ่งว่าเป็นการถอยในทาง”ยุทธศาสตร์”
คำวินิจฉัยจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทำให้ธนาธรจำเป็นต้องยอมรับต่อการรุกอย่างต่อเนื่องจาก”อีกฝ่าย”
รุกผ่านกกต. รุกผ่านศาลรัฐธรรมนูญ
ไม่เพียงแต่จากกรณีของวี-ลัคมีเดีย หากเด่นชัดว่ายังมีกรณี”อิลลูมินาติ”รออยู่ภายในแฟ้ม
จำเป็นต้อง “ถอย” จำเป็นต้อง “ยอมรับ”
กระนั้น ธนาธรก็เช่นเดียวกับพรรคอนาคตใหม่นั่นเอง นั่นก็คือ มิได้ถอยอย่างหนียะย่ายพ่ายจะแจ
หากแต่ในถอยมี”รุก” เป็นการรุกอย่างชิงการเป็นฝ่ายกระทำ
รูปธรรมแห่งการรุกอย่างเด่นชัดก็คือ ธนาธรรุกเข้าไปในฐานทางเศรษฐกิจของทหาร
กระหน่ำเข้าไปในปมแห่งผลประโยชน์มหาศาล
การลาออกจากความเป็นกรรมาธิการวิสามัญเด่นชัดยิ่งว่าคือ ลักษณะแห่งการ”ถอย”
แต่คำประกาศรุกเข้าไปยัง”งบทหาร” คือ การรุก
นี่ไม่เพียงแต่บรรดา “ผบ.เหล่าทัพ” จะต้องออกมาตั้งรับ หากแม้กระทั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็มิอาจอยู่นิ่งเฉยได้
มิใช่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนปัจจุบันเท่านั้น
หากแม้กระทั่งอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็จะต้องออกมาเทคแอ็คชั่นเช่นเดียวกัน
การรุกครั้งใหม่ของธนาธรจึงเป็นการรุกอย่างหนักหน่วง จริงจัง
สื่อบางฉบับถึงกับพาดหัวว่า”ทุบหม้อข้าว”
การเมืองในแบบของธนาธร การเมืองในแบบของพรรคอนาคตใหม่จึงมิได้เป็นการเมืองแบบป้อไปป้อมา
ตรงกันข้าม เป็นการเมืองที่เคร่งเครียด การเมืองที่จริงจัง
คาดหมายได้เลยว่า กรรมาธิการของพรรคอนาคตใหม่จะต้องรุกผ่านการขอสงวนญัตติเพื่อตัดงบประมาณของกระทรวงกลาโหมอย่าง น้อยก็ร้อยละ 40
คาดหมายได้เลยว่า นอกจากในเวทีของรัฐสภาจะต้องมีการเคลื่อนไหวมวลชนประสานกัน 2 แนว
นี่คือการถอยในเชิงรุกตามแบบ”อนาคตใหม่”