E-DUANG : มอง ทักษิณ ไทยรักไทย ทะลุ ธนาธร อนาคตใหม่

กรณีอย่างที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประสบจากคำวินิจฉัยของตุลา การศาลรัฐธรรมนูญให้หมดสภาพการเป็น ส.ส.มิได้เป็นเรื่องใหม่

แม้กระทั่งธงที่ตั้งให้ถึงขั้นตัดสิทธิทางการเมือง ติดคุกติดตะราง

ก็มิได้เป็นเรื่องใหม่ หากแต่เกิดขึ้นมาแล้วหลายตัวอย่างหลายกรณี ที่ร้ายแรงจนถึงขั้นยุบพรรคมาแล้วก็เห็นๆกันอยู่ ดังในกรณีของพรรคไทยรักไทย ดังในกรณีของพรรคพลังประชาชน

นายจาตุรนต์ ฉายแสง ก็เคยถูกตัดสิทธิทางการเมืองมาแล้ว

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ก็เคยถูกตัดสิทธิทางการเมืองและกระทั่งไม่สามารถสังกัดพรรคการเมืองใด

ถามว่าบทบาทของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นอย่างไร ถามว่า บทบาทของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นอย่างไร

ก็ยังเป็นบุคคลที่แวดวงการเมืองล้างหูน้อมรับฟัง และติดตาม

 

คำถามที่ถามกันแล้วถามกันเล่าก็คือ การยุบพรรคไทยรักไทยส่งผลอย่างไรในทางการเมือง

เป้าหมายสำคัญก็คือ ต้องการให้ระส่ำระสาย

อาจเกิดขึ้นระดับหนึ่งเห็นได้จากการเกิดขึ้นของพรรคเพื่อแผ่นดิน เห็นได้จากการเกิดขึ้นของพรรคมัชฌิมาธิปไตย

แล้วผลเป็นอย่างไร

คำถามที่ตามมาก็คือ แล้วเหตุใดจึงต้องยุบพรรคพลังประชาชนในปี 2551 คำถามอันเหมือนกับเป็นคำตอบโดยพื้นฐานก็คือ บทบาท ของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไร

เมื่อยุบพรรคไทยรักไทยก็มีพรรคพลังประชาชน เมื่อยุบพรรคพลังประชาชนก็มีพรรคเพื่อไทย ถึงจะตามไปยุบพรรคเพื่อไทยก็ยังคงมีพรรคการเมืองอื่นตามมา

ก็เหมือนบทเพลงที่ว่า “คุกขังเขาได้ แต่หัวใจปรารถนา”

 

บทเรียนสำคัญอย่างที่สุดในกรณีลงดาบหวังจะประหารผ่านกระบวน การยุบพรรคการเมืองก็คือ

พรรคการเมืองมิได้อยู่ที่ชื่อพรรคหากแต่อยู่ที่”ความคิด”

ขณะเดียวกัน ความคิดอันติดมากับพรรคการเมืองก็มิได้ขึ้นอยู่กับคนใดคนหนึ่ง หากแต่อยู่ที่ว่าความคิดนั้นได้รับการยอมรับจากประชาชนหรือไม่

หากประชาชนยอมรับก็สามารถสืบทอดจากพรรคไทยรักไทยไปยังพรรคพลังประชาชนไปยังพรรคเพื่อไทยได้

พรรคไทยรักไทยคือตัวอย่างอันยอดเยี่ยมให้แก่พรรคอนาคตใหม่