ไม่ว่าปัญหาอันเนื่องจากการถือครองที่ดินกว่า 1,700 ไร่อย่างมีเงื่อน งำ ไม่ว่าปัญหาการดิ้นรนเพื่อหาทางเปลี่ยนประธานคณะกรรมาธิการ

ไม่ว่าปัญหาการไม่สุกงอมในเรื่องประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ

ล้วนเป็น “ปัญหา” อันมีจุดเริ่มมาจาก “ภายใน”ของรัฐบาล และ

“ระหว่าง” พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน

เด่นชัดว่าปัญหาเหล่านี้มีรากฐานมาจากประเด็นทางการเมือง

ขณะเดียวกัน เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ดังหนาหูในเรื่องความเดือด ร้อนของประชาชน ราคาสินค้าเกษตรเสื่อมทรุด ตกต่ำ การขยายตัวใน ทางเศรษฐกิจลดลงเป็นลำดับ

ไม่ว่าสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไม่ว่ากระทรวง การคลัง ไม่ว่าธนาคารแห่งประเทศ ต้องปรับลดการเติบโต

เด่นชัดว่าปัญหาเหล่านี้มีรากฐานมาจากประเด็นทางเศรษฐกิจ

 

เมื่อปัญหานี้ปรากฏขึ้นและสุมรุมมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ ความรู้สึกร่วมในทางสังคมก็รวมศูนย์ไปยังรัฐบาล ไปยังนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประ ยุทธ์ จันทร์โอชา

นั่นก็คือ ความรู้สึกในความเชื่อมั่น ไว้วางใจ

เพราะว่าโดยความเป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือหมายเลข 1 ในทางการเมือง ในทางการบริหาร

ถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้หรือไม่

ขณะเดียวกัน โดยความเป็นนายกรัฐมนตรีและโดยความเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เชื่อมประสานรัฐมนตรีเศรษฐกิจจากพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สามารถสร้างความเชื่อมั่นในทางเศรษฐกิจได้หรือไม่

 

จุดอ่อนอย่างสำคัญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในทางเศรษฐกิจก็คือไม่ได้มีประสบการณ์มาก่อนเลย เพราะเรียนและเติบโตทางด้านการทหาร

จึงไม่แน่ใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเข้าใจกลไกในทางเศรษฐกิจหรือไม่

ขณะเดียวกัน ในทางการเมืองรากฐานแห่งอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือการมีส่วนร่วมในการก่อรัฐประหารไม่ว่าจะเป็นเมื่อปี 2549 และโดยเฉพาะในปี 2557

เครดิตทางการเมือง เครดิตทางเศรษฐกิจ นี้คือความเป็นจริงที่ดำรงอยู่นับแต่ปี 2557 มากระทั่งปี 2562