เผยแพร่ |
---|
ปรากฎการณ์แกนนำพรรคพลังประชารัฐเปิดปฏิบัติการทวงคืนกระ ทรวงคมนาคมจากพรรคภูมิใจไทย ส่งผลสะเทือนเป็นอย่างสูงในทาง การเมือง
1 สะท้อนให้เห็นว่าผลประโยชน์อันดำรงอยู่ภายในกระทรวงคมนาคมนั้นมหึมโหฬาร
หากไม่มหึมโหฬารอย่างเอนกอนันต์แกนนำพรรคพลังประชารัฐ คงไม่เกิดอาการหน้ามืดถึงขนาดเปิดปฏิบัติการโดยมองข้ามบทบาทและความหมายของ 52 ส.ส.ที่พรรคภูมิใจไทยมีอยู่ในมือ
และถึงกับมองข้ามบทบาทและความหมายของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ภายในพรรคภูมิใจไทยไปโดยสิ้นเชิง ลืมไปว่านามสกุล”ชิด ชอบ”สำคัญเพียงใดในพรรคภูมิใจไทย
ขณะเดียวกัน 1 สะท้อนให้เห็นพลังแฝงของ”สื่อ”ที่มีอยู่ในมือ
ต้องยอมรับว่าภายในพรรคพลังประชารัฐมีเส้นสายและเครือข่ายของบุคคลที่มี “สื่อ” อยู่ในมืออย่างทรงพลานุภาพยิ่ง
ไม่ว่าจะโดยตรง ไม่ว่าจะโดยอ้อม
ทั้งมิได้เป็นสื่อประเภทสังคมแฟชั่นในแบบของ”วี-ลัคมีเดีย” ทั้งมิได้เป็นสื่อที่เลิกกิจการและเลิกบริษัทไปแล้วในแบบของ “วี-ลัค มีเดีย”
ตรงกันข้าม ยังเป็นสื่อที่ดำเนินกิจการอยู่ ไม่เพียงแต่สื่อกระดาษ หากแต่ยังเป็นสื่อดิจิตัล
แม้ว่ากรรมการบริหารของพรรคพลังประชารัฐมิได้ถือครองหุ้นโดยตรง แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีเส้นสายและมีความสัมพันธ์กับเจ้าของสื่ออย่างแนบแน่น
จึงไม่แปลกที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ จะถูกฟาดกระหน่ำ จึงไม่แปลกที่พรรคภูมิใจไทยจะถูกขุดคุ้ยและโจมตี
กรณีที่แกนนำพรรคพลังประชารัฐหันปลายหอกกระหน่ำเข้าใส่พรรคภูมิใจไทย และ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ จึงเป็นบทเรียนโดยตรงกรณีที่ พรรคการเมืองมีสื่ออยู่ในความครอบครอง
เป็นอย่างที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้ประสบด้วยตนเอง
ยิ่งแกนนำพรรคพลังประชารัฐมีความกระหายและต้องการทวงคืนกระทรวงคมนาคมจากพรรคภูมิใจไทยมากเพียงใด บทบาทของสื่ออันเป็นประเภทลูกแหล่งตีนมือ ยิ่งแผลงฤทธิ์ มากเพียงนั้น
ทั้งหมดล้วนอยู่ในความรับรู้ของพรรคภูมิใจไทยและสังคม