เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าบทบาทของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าบทบาทของพรรคประชาธิ ปัตย์ ไม่ว่าบทบาทของพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าบทบาทของพรรคชาติไทยพัฒนา ต่อประเด็นการแก้ไข”รัฐธรรมนูญ”
กำลังให้ “บทเรียน” อันทรงความหมายยิ่งบนวิถีแห่ง # อยู่เป็น ในทางการเมือง
เมื่อมีการเสนอชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมา
พรรคประชาธิปัตย์นั้นย่อมดีใจอย่างแน่นอน พรรคชาติไทยพัฒ นาไม่มีปัญหา พรรคภูมิใจไทยยังไม่มีใครออกมาแสดงท่าที
แต่พรรคพลังประชารัฐไม่ลังเลที่จะออกมา “ขวาง”
แม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นส่วนหนึ่งของพรรคร่วมรัฐบาล แม้ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเคยเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
คำถามอยู่ที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์คิดอย่างไรในเรื่องนี้
พลันที่เห็นท่าทีของพรรคพลังประชารัฐยืนยันว่าตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ต้องเป็นของพรรคพลังประชารัฐ ที่ควร ให้ความสนใจคือท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์
ถามว่า นายเทพไท เสนพงศ์ ยังยืนยันในความเหมาะสมของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือไม่
ถามว่าพรรคประชาธิปัตย์รู้สึกอย่างไรกับท่าทีพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ยอมรับในสถานะ”รอง”ต่อพรรคพลังประชารัฐในการอยู่กับรัฐบาลหรือไม่
และหากว่าในที่สุดแล้วพรรคพลังประชารัฐจะไม่ยอมเป็นอันขาดให้พรรคประชารัฐครองฐานะ”นำ”อยู่ในคณะกรรมาธิการวิสามัญ พรรคประชาธิปัตย์จะตัดสินใจอย่างไร
ไม่ว่าการตัดสินใจของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ต่อกรณีนี้จึงสำคัญ
สำคัญไม่เพียงสะท้อนให้เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐคิดอย่างไรต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ที่เขียนเป็นนโยบาย”เร่งด่วน” นั้นเร่งด่วนแค่ไหน จริงหรือไม่
ขณะเดียวกัน ก็สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลคิดอย่างไรในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญแม้จะแถลงในที่ประชุม”รัฐสภา”มาแล้วก็ตาม
คำตอบจากพรรคประชาธิปัตย์ก็สำคัญอย่างยิ่งยวด
สำคัญว่าที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลั้นมีความจริงจังแค่ไหน
ในที่สุด ทั้งหมดจะชี้ชัดว่าพรรคประชาธิปัตย์”อยู่เป็น”เพียงใด