เผยแพร่ |
---|
ความโน้มเอียงในทางความคิด คือ ความโน้มเอียงที่จะเอนไปใน ด้านอันเป็นผลดีกับตนเองมากกว่าผลเสีย
นั่นก็คือ เอนไปในทาง”ได้”
ในทางเป็นจริงก็คือ มองเห็นแต่ในด้านของ “รายรับ” และมองข้ามในด้านของ “รายจ่าย”
เหมือนอย่างกรณี ยื้อ ถ่วง หน่วง “การเลือกตั้ง”
หากนับจากการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับของ นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ ในที่ประชุมสปช.เมื่อเดือนกันยายน 2558
ผลได้ก็คือเลื่อนการเลือกตั้งมาจนถึงปี 2562
คิดสะระแล้วเท่ากับคสช.และรัฐบาลยื้อเวลาไปได้ 4 ปีสมตามความปรารถนาที่ว่า
“อยากอยู่ยาว”
การได้อยู่มาจากเดือนพฤษภาคม 2557 โดยไม่ต้องเลือกตั้งภายปี 2558 ถือว่าประสบความสำเร็จ
ถือว่าเป็น “รายรับ”
หากนับจากเดือนพฤษภาคม 2557 ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2562 ก็ยาวนานถึง 5 ปี
คำถามก็คือ เวลา 5 ปีทำอะไรได้บ้าง
หากรับฟังการแจกแจกจากทำเนียบรัฐบาลก็เหมือนกับว่ามากด้วยผลงานและความสำเร็จ
แต่ถามว่าหากสำเร็จทำไมจึงไม่ยอม”เลือกตั้ง”
นี่ย่อมเหมือนกับคำคุยโวของ”กปปส.“ว่ามี”มวลมหาประชา ชน” เป็นฐานเรือนแสนเรือนล้าน แต่ก็สกัดขัดขวางถึงกับชัตดาวน์ หน้าคูหาไม่ยอมให้”เลือกตั้ง”
การยื้อ ถ่วง หน่วง “การเลือกตั้ง” นั่นแหละจะกลายเป็น”ราย จ่าย”ให้กับคสช.และรัฐบาล
ก่อให้เกิดความสงสัยใน “ผลงาน” และ “ความสำเร็จ”
น่าเศร้าก็ตรงที่คสช.สามารถใช้ “กำลัง”ในการยึดอำนาจมาอยู่ในมือได้นับแต่เดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา
แต่”กำลัง”ก็ยังมิอาจสร้าง”ความมั่นใจ”
จากเดือนพฤษภาคม 2557 ผ่านเดือนพฤษภาคม 2561 มาแล้วก็ยังไม่กล้าเข้าสู่สนาม”เลือกตั้ง”ทั้งๆที่มีรัฐธรรมนูญอยู่ในมือ ทั้งที่แผ่พลานุภาพแห่ง”พลังดูด”ไปอย่างคึกคัก
ตรงนี้แหละคือ “รายจ่าย” และจะกลายเป็น “ผลเสีย”