เผยแพร่ |
---|
การเมืองในพรรคเพื่อไทยเพิ่มความละเอียดอ่อนขึ้นมาโดยอัตโนมัติเมื่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม.โดยอิสระ ไม่สังกัดพรรคการเมือง
ความละเอียดอ่อนในที่นี้มาจาก 2 สภาพการณ์
1 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เคยเป็น 1 ใน 3 รายชื่อนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562
1 พรรคเพื่อไทยมีความเห็นร่วมโดยพื้นฐานต้องการส่ง นายชัช ชาติ สิทธิพันธุ์ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม.แม้จะยังมิได้เป็นมติของพรรคอย่างเป็นทางการ
การประกาศลง”อิสระ”ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เท่ากับปฏิเสธเทียบเชิญจากพรรคเพื่อไทย
ตรงนี้ยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรัดกุม
ในฐานะพรรคเพื่อไทยสืบทอดและต่อเนื่องมาจากพรรคพลังประชา ชน พรรคไทยรักไทย และอยู่ในฐานะเป็นคู่ต่อสู้แย่งชิงพื้นที่กทม.กับพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด
และสถานการณ์การเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 พรรคเพื่อไทยก็ได้รับเลือกในกทม.
ในทางการเมือง พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องยืนยันหลักการในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม.เพื่อรักษาพื้นที่และรักษา อำนาจในสภากทม. สภาเขต
แต่แล้วก็ต้องสะดุดหยุดลงในเมื่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ไม่ยอมลงในนามของพรรคเพื่อไทย
พรรคเพื่อไทยจึงมายืนอยู่บนทางแพร่งอันสำคัญและแหลมคมยิ่งในทางการเมือง 1 จะเปิดทางและสนับสนุน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หรือ 1 จะหาคนลงเพื่อรักษาพื้นที่ รักษาฐานคะแนนเสียง
แม้จะต้องแข่งขันกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็ตาม
ความแหลมคมอยู่ตรงที่เคยมีท่าทีจากแกนนำสำคัญในพรรคเพื่อไทยต่อการตัดสินใจของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ด้วยความอบอุ่นเป็นพิเศษ
ไม่ว่าจะจาก นายปลอดประสพ สุรัสวดี ไม่ว่าจะจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย
ขณะที่ภาคกทม.ของพรรคเพื่อไทยยืนยันที่จะต้องส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่ากทม.แม้ว่าจะต้องแข่งขันกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็ตาม
นี่เป็นอีกห้วงเวลาหนึ่งซึ่งท้าทายมติของพรรคเพื่อไทยอย่างสูง