| เผยแพร่ |
|---|
พลันที่มีปฏิบัติการ IO ขยายประเด็นมาตรา 1 ของรัฐธรรมนูญกระทั่งนำไปสู่การแจ้งความ ร้องทุกข์ กล่าวโทษต่อ 12 นักการ เมือง และนักวิชาการ ของ กอ.รมน.
นั่นเท่ากับแสดงให้เห็นว่า กระแสการรณรงค์เพื่อนำไปสู่การ แก้ไขรัฐธรรมนูญเริ่มจุดติด
หากไม่ติดก็คงไม่มีการแจ้งความ กล่าวโทษ
ยิ่งคนที่เดินไปแจ้งความ ร้องทุกข์ กล่าวโทษ เป็น พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ อันเป็น”เจ้าเก่า” ยิ่งเด่นชัดว่ารัฐบาลและบรรดาอดีต”คสช.“คิดอย่างไร
คิดว่ามีความจำเป็นต้องดำเนินมาตรการ”ป้องปราม”เพื่อเตะ ตัดขา สกัดก่อนที่กระแสจะขยายเติบใหญ่ยิ่งกว่านี้
เหมือนกับเป็นการรุกแต่ก็เป็นการรุกในลักษณะ”ตั้งรับ”
ต้องยอมรับว่ากระบวนการ”ยืมหอกสนองคืน”จากการปล่อยออกมาของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านจากเวทีเสวนา ณ ลานวัฒน ธรรม ปัตตานี ได้ผล
เพียงเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือ”ธงนำ”
เท่านั้นแหละทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เล่นบทปัดปฎิเสธโดยพร้อมเพรียง
เมื่อ ระดับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประสานกับระดับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมาไม่ยอมรับ”ธง”ที่ 7 พรรคร่วม ฝ่ายค้านยื่นมาให้
ก็จำเป็นที่ กอ.รมน.จะต้องขานรับ ก็จำเป็นที่นายทหารผู้ชำนาญการอย่าง พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ จะต้องออกโรง
เหมือนกับจะเป็นการโยน”หอก”ออกจากตัว
แต่ในความเป็นจริงทุกก้าวย่างในทางการเมืองก็เท่ากับยอม รับอย่างเป็นรูปธรรมว่า ที่บอกว่าเป็นนโยบาย”เร่งด่วน”ไม่เพียงแต่มิได้”เร่งด่วน” หากในที่สุดแล้วไม่เคยคิด ไม่เคยปรารถนา
คำตอบนี้ไม่ทราบว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าใจหรือไม่
เหมือนกับศึกครั้งนี้ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านต้องการเคลื่อนกำลังออกไปสัประยุทธ์กับรัฐบาลโดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอ ชา
เป้าหมายอาจเป็นเช่นนั้นในทาง”ยุทธศาสตร์”
แต่ในทาง”ยุทธวิธี” 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านต้องการชี้ให้พรรคประชาธิปัตย์มองเห็นความเป็นจริงมากกว่า
ความเป็นจริงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
