เผยแพร่ |
---|
พลันที่ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สวมหมวกเชฟปรุงอาหาร ที่เกาะสมุย โดยมีภาพ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยืนเรียงอยู่เคียงข้าง
ก็เกิดความเข้าใจว่าเหตุใดเมื่อแรกเข้าทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงถือไม้กวาดเก้ๆกังๆ
เรียกตามภาษา ZEN ก็คือ ZATORI
แน่นอน คุณหนูนักเรียนนอกอย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่เคยกวาดบ้าน ย่อมไม่รู้ว่าจะจับไม้กวาดอย่างไร
ก็เหมือนกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นแหละ
เรียนจบมัธยมก็เป็นทหาร ตั้งแต่ชั้นผู้น้อยจนถึงผบ.ทบ.ไม่เคยรู้เรื่องของเชฟจึงสวมหมวกผิดข้างอิหลักอิเหลื่อยิ่ง
แต่คำถามก็คือ ทำไมไม่มีคนบอก
ประเด็นอันเกี่ยวกับคำถามว่าทำไมไม่มีใครบอกนี่แหละที่ทำให้กลายเป็น “เรื่องยาว”ได้โดยอัตโนมั้ติ
เหมือนกับเมื่อแรกเดินทางเข้าที่ประชุมรัฐสภา
ทั้งๆที่มี นายวิษณุ เครืองาม ทั้งๆที่มี นายสมคิด จาตุศรีพิ ทักษ์ นั่งอยู่ไม่ห่างไปจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มากนัก
ทำไมสภาพที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลุกขึ้นยึดไมค์โดยไม่ขออนุญาตกับประธานจึงได้บังเกิด
รวมทั้งการชี้ไม้ชี้มืออย่างขาดความระมัดระวัง
หรือแม้กระทั่งการเดินทางไปตรวจราชการที่ฐานทัพเรือสัตหีบ แล้วเดินเข้าห้องผ่าตัดทั้งๆที่ไม่ได้อยู่ในชุดอันมีการตระเตรียม เอาไว้
ใครก็ตามที่ได้เห็นเป็นต้องถามด้วยความประหลาดใจว่าเข้าไปได้อย่างไร ทำไมไม่มีใครบอก ทำไมไม่มีใครแนะนำให้รับรู้ก่อนลงมือปฏิบัติบ้างหรือ
คำถามที่สวนกลับฉับพลันก็คือ ใครจะกล้า
เมื่อติดอยู่กับวลีที่ว่า”ใครจะกล้า”ซะแล้ว
สภาพที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถือไม้กวาดผิดด้านจึงเกิด
สภาพที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำอะไรแปลกๆไม่ว่าที่สัตหีบ ไม่ว่าที่เกาะสมุย จึงปรากฏให้ชาวบ้านได้แอบหัวร่อครั้งแล้วครั้งเล่า
นี่ย่อมเป็นชะตากรรมของ”นายกรัฐมนตรี”โดยแท้