เผยแพร่ |
---|
ปัญหาอันเนื่องแต่“อุลตราแมน”กำลังให้”บทเรียน”อย่างลึกซึ้งและกว้างขวางต่อสังคมไทย
เป็นปัญหาทางด้าน”วัฒนธรรม”และ”ความคิด”
สะท้อนให้เห็นว่า ความรอบรู้ ความเข้าใจต่อพุทธศาสนาที่ดำรงอยู่ในสังคมไทยตื้นเขินอย่างน่าใจหาย
เมื่อตื้นเขินก็ตีกรอบกีดกั้นตนอยู่ในวงอันคับแคบ
ความจริง ปัญหาเดียวกันนี้พุทธทาสภิกขุเคยทิ้งระเบิดเอาไว้ในปาฐถาว่าด้วย”วิถีแห่งพุทธธรรม”อันพระพุทธรูปปิดกั้นและบังตาพุทธศาสนิกเอาไว้นานมาแล้ว
แต่ล่วงมาถึงพุทธศักราช 2562 ความคับแคบก็ยังบดบังและก่อให้เกิดสภาวะบิดเบี้ยวในทางความคิด
กระนั้น ภายใน”วิกฤต”ก็กลับกลายเป็น”เรื่องดี”
ทั้งๆที่รูปแบบของชุมชนสงฆ์คือรูปธรรมแห่งความเป็นประชาธิปไตยอย่างเด่นชัด เป็นชุมชนที่ดำรงอยู่ด้วยเครื่องอัฎฐบริขารบนฐานแห่งความพอเพียงอย่างถึงที่สุด
แต่ด้วยพัฒนาการทางสังคมได้ทำให้ชุมชนพุทธได้รับผลสะเทือนในทางอำนาจ
เป็นอำนาจอันคล้อยตาม”โลกานุวัตร”อย่างผิดๆ
นั่นก็คือ จากไม่มีพระพุทธรูปกลายเป็นมีพระพุทธรูป จากการละวางไม่ยีดติดกลายเป็นยึดติด และเก็บรับเอาอำนาจผิดๆจากสังคมโลกเข้าไป
นั่นก็คือ การปิดกั้นอยู่แต่เพียงโลกแห่งเถรวาทโดยมิได้เปิดกว้างรับเอา”มหายาน”เข้ามาอย่างสร้างสรรค์
ผลจึงไม่เพียงแต่การปิดกั้นนำไปสู่ความคับแคบในทางความคิดในทางความรู้ หากแต่ยังสกัดขัดขวางความคิดสร้างสรรค์อย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์
แม้แต่หลักแห่งกาลามสูตรอันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยสอน เอาไว้ก็ละเลย ไม่มีการตรวจสอบ ไม่มีการไตร่ตรอง
ประเด็นอันเกี่ยวกับ”อุลตราแมน”จึงนำไปสู่การเขย่าความเชื่อมั่น ความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนอย่างขนานใหญ่
คนที่คิดว่าคิดดีก็อาจจะไม่ดี ความคิดที่คิดว่าถูกก็อาจไม่ถูก
จากพรมแดนทางการเมืองก็ขยายสู่พรมแดนทางศาสนา สู่พรมแดนทางความคิด กลายเป็นวาระในทางสังคม กลายเป็นวาระในทางปัญญา
นี่ย่อมเป็นโอกาสอย่างสำคัญในการถกแถลง อภิปราย