เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าพรรคชาติไทยพัฒนา ล้วนชูภาพลักษณ์ที่เปิดกว้าง
เปิดกว้างให้กับคนรุ่นใหม่ เปิดกว้างให้แม้กระทั่งคนพันธุ์ใหม่ อย่างที่เรียกว่ากลุ่มคนข้ามเพศ
เห็นได้จากการชูคนรุ่นใหม่อย่าง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์
เห็นได้จากการชูคนรุ่นใหม่อย่าง นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ขึ้นมาเป็นจุดขาย
เห็นได้จากการชู New Dem และ New Blood
แต่เมื่อผ่านการเลือกตั้ง ภาพของคนรุ่นใหม่ที่เคยชูขึ้นสูงเด่นก็ค่อยจางจากถูกพรากไป
ที่โดดเด่นกลับสัมผัสได้จาก “อนาคตใหม่”
นั่นเป็นเพราะความสดใสของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มีมากกว่าภาพของ นายอุตตม สาวนายน มีมากกว่า ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล แห่งพลังประชารัฐ และรวมพลังประชาชาติไทย กระนั้นหรือ
อาจใช่ แต่น่าจะมีอะไรมากไปกว่านั้น
มิเช่นนั้น บรรดา New Dem หรือ New Blood คงไม่เงียบกริบเหมือนน้ำท่วมปากกระทั่งบางคนต้องอำลาจากไป
ตรงกันข้าม กับในพรรคอนาคตใหม่กลับมีกิจกรรมต่อเนื่อง แม้ว่าการเลือกตั้งจะผ่านพ้นมาแล้วไม่ว่าจะเป็นการจัดรายการที่เรียกว่า Future is Now ไม่ว่าการชุมนุมอย่างที่เรียกว่า Futurista เพื่อนำไปสู่การขยายสมาชิกอย่างไม่ขาดสาย
ถามว่ากิจกรรมอันคึกคักเช่นนี้พรรคพลังประชารัฐมีหรือไม่ พรรครวมพลังประชาชาติไทยมีหรือไม่ หรือแม้กระทั่งพรรคประชา ธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนามีหรือไม่
นั่นเท่ากับพรรคการเมืองเหล่านั้นเป็นพรรคสภา เมื่อจบสิ้นการเลือกตั้งทุกอย่างก็จบไปด้วย
จุดต่างระหว่างพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา กับพรรคอนาคตใหม่ จึงมิได้อยู่ที่ความต่างในเรื่องวัยอย่างเดียว
ตรงกันข้าม ความสดใหม่ในการดำรงอยู่ทางการเมืองต่างหากคือแก่นแกนอย่างแท้จริงของพรรคการเมือง
เป็นพรรครุ่นใหม่ หรือเป็นพรรครุ่นเก่า