E-DUANG : ถึงเวลา ประวิตร วงษ์สุวรรณ กำกับ จริงจัง พลังประชารัฐ

การตัดสินใจดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สำคัญอย่างยิ่งในทางการเมือง

ไม่เพียงแต่ยืนยันสถานะแห่งความเป็นตัวจริง เสียงจริงว่าเป็นอย่างไรเท่านั้น

หากเท่ากับเป็นการยอมรับ”ความจริง”

ความจริงที่ว่าการชูเชิด นายอุตตมสาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิรัตน์ ลงมาเป็นหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ยังไม่เพียงพอจำเป็นต้องมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลงมาด้วย

ผลก็คือ ทำให้พรรคพลังประชารัฐมีสถานะแห่งความเป็นพรรคการเมืองของ”คสช.“อย่างเด่นชัด เป็นจริง

ไม่จำเป็นต้องเล่นบท”อีแอบ”อีกต่อไป

 

ถามว่าการขับเคลื่อนพรรคพลังประชารัฐของคสช.ดำเนินไปอย่าง เร้นลับมากน้อยเพียงใด

ตอบได้เลยว่า แทบไม่มีอะไรเร้นลับ งำประกาย

ตรงกันข้าม กระบวนการยกร่าง”รัฐธรรมนูญ”จากยุค นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ มาถึงยุค นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ไม่มีอะไรปิดบังอำ พราง

ยิ่งการผลักดัน”ประชามติ”ในแบบมัดมือชกเมื่อเดือนสิงหาคม 2559 ยิ่งแจ้งจางปาง

เมื่อกลายมาเป็น”พรรคพลังประชารัฐ”ยิ่งโจ๋งครึ่ม

ไม่เพียงแต่อ่านผ่านไทยนิยม ไม่เพียงแต่อ่านผ่านประชารัฐ และการทุ่มเงินงบประมาณจำนวนมหาศาล หากกระบวนการของ

“กลุ่มสามมิตร”ยิ่งเปิดเผย

เจาะทะลวงเข้าไปทะลายฐานกำแพง ไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย อย่างหนักน่วงรุนแรง โดยบัญชาการมาจากทำเนียบรัฐบาลครบเครื่อง

หากไม่เป็นไปตามเป้าก็สามารถใช้”อภินิหาร กฎหมาย”ได้

 

เมื่อสามารถต่อเชื่อมระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มาจากรัฐประหาร กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มาจากการเลือกตั้งได้ในเดือนมิถุนายน 2562

ก็ถึงเวลาที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะต้องลงมาคุมมากำกับผ่านกลไกของพรรคพลังประชารัฐ

นี่เป็นอีกจังหวะก้าวหนึ่งของคสช.

ในเมื่อ “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”