E-DUANG : อาการ โรคร้าย การเมือง เนื่องแต่ รัฐธรรมนูญอักเสบ

ทั้งเรื่องที่ พี่เต้ มงคลกิตติ์ ออกมาประกาศตนเป็น”ฝ่ายค้านอิสระ” ทั้งเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาเปล่งคำสารภาพต่อ หน้าผู้บริหารระดับสูง 800 คนของประเทศ

“ผมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”

สะท้อนให้เห็นปัญหาอันดำรงอยู่ในปีกทางด้านรัฐบาล ของ พรรคร่วมรัฐบาล

สะท้อนอาการของโรค”รัฐธรรมนูญ อักเสบ”

เป็นผลพวงมาจากการจัดวางกฎและกติกาโดยฝีมือระดับสุด ยอดของ นายมีชัย ฤชุพันธ์และคณะ ภายใต้ความเชื่อมั่นอย่างสูง ว่า

“รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”

 

คำถามที่แม้กระทั่ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายวีระกร คำประกอบ ก็อาจบังเกิดขึ้น

แล้วทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องยอมรับผิด

แล้วทำไม ทั้ง นายอุตตม สาวนายน ทั้ง นายสนธิรัตน์ สนธิจิ รวงศ์ จึงไม่สามารถจัดแถวให้กับพรรคการเมืองที่เคยร่วมในการ ขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

กรณีอันเกี่ยวกับการถวายสัตย์ปฏิญาณตนบทบาทโดดเด่น กลับตกเป็นของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ที่ออกมาทักท้วง

กลับตกเป็นของ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส ที่ขยายผล

กรณีอันเกี่ยวกับอาการโยเยโยกเยกของ พี่เต้ มงคลกิตติ์ คนที่เข้ามาเล่นบทเป็น”มือประสาน” กลับเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

มิใช่ นายอุตตม สาวนายน มิใช่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์

แม้คนแรกจะเป็นหัวหน้าพรรค แม้คนหลังจะเป็นเลขาธิการ พรรค

อย่าถามถึงบทบาทของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ หรือ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หรือกระทั่งนายวีระกร คำประกอบ เพราะอยู่ห่างไกลอย่างยิ่ง

ทั้งหมดนี้ก็เนื่องแต่”รัฐธรรมนูญ”มิใช่หรือ

 

เด่นชัดอย่างยิ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องหาหนทางให้กับตนเอง มิได้หมายถึงการลาออกจากตำแหน่ง

แต่ถามว่า นายวิษณุ เครืองาม ตอบได้หรือไม่ แต่ถามว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ตอบได้หรือไม่

นั่นเพราะมาตรา 161 นั่นเพราะมาตรา 163