| เผยแพร่ |
|---|
การเปลี่ยนแปลงภายในพรรคเพื่อไทยดำเนินไปตามกฎแห่งพัฒ นาการที่”ใหม”กำลังเข้าไปแทนที่ “เก่า”
เห็นได้จากตัว “หัวหน้าพรรค”
นั่นก็คือ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เข้าไปแทนที่ พล.ต.ท.วิ โรจน์ เปาอินทร์
เห็นได้จากตัว “เลขาธิการพรรค”
นั่นก็คือ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เข้าไปแทนที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย
ความน่าสนใจอยู่ตรงไหน
ความน่าสนใจอยู่ตรงที่เป็นการเปลี่ยนผ่านอย่างสันติ เป็นการเปลี่ยนผ่านด้วยความยินยอมพร้อมใจ
และโดยกระบวนการเลือกตั้งภายในพรรค
อาจมีข่าวลือข่าวปล่อยเกิดขึ้นว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนปมขัดแย้งและการต่อสู้ภายในพรรคเพื่อไทย
แต่บทบาทของ นายภูมิธรรม เวชยชัย ก็งดงาม
งดงามในการอธิบายถึงความจำเป็นในตัวหัวหน้าพรรค งด งามในมารยาททางการเมือง
เหตุผลไม่ซับซ้อน
ในเมื่อตำแหน่ง”ผู้นำฝ่ายค้าน”จำเป็นต้องนั่งอยู่ในสภา ใน เมื่อหัวหน้าพรรคคนเดิมไม่ได้เป็น ส.ส.ก็จำเป็นต้องนำเอาคนที่ เป็น ส.ส.มา
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ จึงเข้าไปแทน พล.ต.อ.วิโรจน์ เปา อินทร์ ด้วยประการฉะนี้
ขณะเดียวกัน เลขาธิการพรรคมาพร้อมกับหัวหน้าพรรค ใน เมื่อหัวหน้าพรรคอำลาจากไปก็มีเหตุผลอันสมควรที่เลขาธิการ พรรคจะต้องตามไปด้วย
การอำลาของ พล.ต.อ.วิโรจน์ แสงสนิท การอำลาของ นาย ภูมิธรรม เวชยชัย จึงชอบ
การผัดเปลี่ยนระหว่าง นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ กับ พล.ต.ท.วิโรจน์ แสงสนิท การผัดเปลี่ยนระหว่าง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ กับ นายภูมิธรรม เวชยชัยจึงเป็นไปตามวาระ ตามความเหมาะสม
จากนี้การนำพาพรรคเพื่อไทยก็อยู่ในมือของ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ประสานเข้ากับ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ
เป็นการเข้าสู่อีกยุคหนึ่งของพรรคเพื่อไทย
