เพียงสัมผัสหัวข้อเรื่อง “ภารกิจของพรรคเพื่อไทย:ปรับกระบวน ทัศน์ จัดกระบวนคน สร้างกลไกรับมือวิกฤตรัฐธรรมนูญ” ของท่าน ภูมิธรรม เวชยชัย

ก็รับรู้ได้โดยพลันว่า เยาวภาพแห่งความเป็น “พี่อ้วน ภูมิธรรม” ได้หวนกลับมาอย่างเด่นชัด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ปรับกระบวนทัศน์ จัดกระบวนคน”

หวนนึกถึงบทเพลงอันทรงพลังในกาลอดีต “คำเรียกร้องของ เลขาธิการ เราจะขานรับให้สมกับพรรคไว้ใจ” เพราะนี่คือภารกิจอันทรงความหมายยิ่งของพรรคการเมือง

พรรคเพื่อไทยอันสืบสานผลงานและความสำเร็จจากพรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักไทย

นี่คืองานความคิด งานการเมืองและงานการจัดตั้ง

 

หากมองจากประสบการณ์และความจัดเจนจากการจัดตั้งพรรค ไทยรักไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2542 เวลา 2 ทศวรรษมีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างสูง

เป็นความอุดมสมบูรณ์ของรัฐบาลที่มีผลงานต่อเนื่องมาจน กระทั่งปัจจุบัน

จุดเด่นเป็นอย่างมากก็คือ จุดเด่นในการนำเอา”นโยบาย”มาเป็นอาวุธสำคัญในการต่อสู้บนสมรภูมิการเลือกตั้ง และจุดเด่นยิ่งไปกว่านั้นคือการปฏิบัติตาม”นโยบาย”ครบถ้วน

นับแต่การเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2544 เป็นต้นมา การต่อสู้ทางนโยบายจึงเป็นเรื่องสำคัญ

การประสาน “นโยบาย” กับ”การปฏิบัติ”จึงทรงความหมาย

ที่สำคัญก็คือ การสร้างพรรคให้พัฒนาจากความเป็นพรรคในลักษณะ “พรรคสภา” ให้กลายเป็น “พรรคมวลชน”ให้ปรากฏเป็นจริง

นั่นก็คือ ปรับกระบวนทัศน์ จัดกระบวนคน

 

ปัญหาของแต่ละพรรคการเมืองก็คือ จะ “ทำ”การเมืองอย่างไร ทำ อย่างเป็น “งานอดิเรก” หรือว่าทำอย่างเป็น “งานอุดมการณ์”

จิตหนึ่งใจเดียวเพื่อการเมือง เพื่อพรรคการเมือง

หรือว่าจะทำเพียงเพื่อผลในการเลือกตั้ง หรือว่าเพื่อขับเคลื่อนอุดมการณ์ความคิดอย่างไม่หยุดนิ่ง อย่างมีลักษณะจัดตั้ง ลงไปในพื้นที่

เป็นการเมืองตามเทศกาล หรือเป็นการเมืองตลอดชีวิต เป็นการเมืองทั้ง 24 ชั่วโมง