ทั้งๆที่มีการเผยแพร่ค่านิยม 12 ประการให้กับเด็กนักเรียนตั้งแต่แรกที่คสช.และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามามีอำนาจทางการเมืองในห้วงหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

เหตุใดจึงเกิดปรากฏการณ์พานพุ่มดอกไม้เนื่องใน”วันไหว้ครู” ขึ้น

นี่เป็นเรื่องชวนให้ปวดร้าวเป็นอย่างสูง

เพราะมิได้เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคอีสานอย่างหนองคายหรือสกล นคร หากแต่ยังมีพิษณุโลก มีที่ชัยนาท และแม้กระทั่งในโรงเรียนในใจกลางกทม.

ตรงนี้เองที่ทำให้บิกคสช.ต้องลั่นวาจาออกมาว่า “เรื่องนี้ต้องมีเบื้องหลัง” และสั่งการให้มีการตรวจสอบโดยด่วน

เพราะแสดงว่าค่านิยม 12 ประการล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

 

สัญญาณอันเนื่องมาแต่ปรากฎการณ์พานพุ่มดอกไม้เนื่องใน”วัน ไหว้ครู” เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะเป็นเรื่องความแข็งขืนในทาง วัฒนธรรม ความคิด

การแสดงออกทาง”วัฒนธรรม” เท่ากับเป็น “สัญญาณ”ในทางการเมือง

เหมือนที่นักเรียนเคยแสดงออกผ่าน “สังคมนิทัศน์”

เป็นปรากฏการณ์ในยุคปลายของ จอมพลถนอม กิตติขจร อันตามมาด้วยการออกหนังสือชื่อ “กด” และ”พลัง”ของนักเรียนมัธยมคอซอง

ยุคของ จอมพลถนอม กิตติขจร อาจปรากฏเพียงในส่วนกลาง

ขณะที่ยุคของคสช. ยุคของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับกระจายออกไปอย่างคึกคักกว้างขวางทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางและในกทม.

บ่งบอกว่าอาจจะขยายจาก”วันไหว้ครู”ไปถึงขบวนพาเหรดในวาระแห่งการแข่งขันกีฬาสี

 

ความน่าสนใจอยู่ที่แม้จะมีการขยับจากเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปตรวจสอบถึงโรงเรียน แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งกระแสคลื่นแห่งการแสดงออกของนักเรียน

เนื่องจากเป็นนักเรียนในยุคไทยแลนด์ 4.0

เพราะสื่อหนึ่งซึ่งทรงพลังเป็นอย่างสูงคือการแพร่กระจายผ่าน “ออนไลน์”

แสดงว่าเด็กรุ่นใหม่กับออนไลน์แนบแน่นกันอย่างยิ่ง