E-DUANG : ท่วงทำนอง รับมือ ของ “อีช่อ” ภายใน การห้อยโหน กระแส

ถามว่าสถานการณ์ “อีช่อ” ดำเนินไปอย่างไร บานปลาย หรือว่ายุติลงอย่างเงียบเชียบ

บานปลาย แต่มิได้บานปลายเข้าใส่ “อีช่อ”

ตรงกันข้าม เจ้าของเสียงเปล่งคำว่า “อีช่อ” นั่นเองอยู่ในอา การรับเละ

ต้องวิ่งโร่ไปแจ้งความที่ “ปอท.”

เหมือนกับว่าสถานการณ์ที่พุ่งปลายหอกเข้าใส่ “อีช่อ” จะคล้ายกับสถานการณ์ของ สาย สีมา เมื่อได้รับเชิญเข้าไปในงาน เลี้ยงในคฤหาสน์ของ “ท่านเจ้าคุณ”บิดาของรัชนี

แต่เอาเข้าจริงๆ “อีช่อ” มิได้ใช้กระบวนท่าในแบบของ สาย สีมา เข้าสัประยุทธ์ตอบโต้

ตรงกันข้าม กลับใช้กระบวนท่าในแบบ วัน อยู่บำรุง

 

จำกันได้หรือไม่เมื่อ ส.ส.วัน อยู่บำรุง อยู่ในสูทขาวในงานพระราชพิธีเปิดประชุมรัฐสภา

มีคนบางคนมาแตะศอก ต้องการจะจับมือ

ส.ส.วัน อยู่บำรุง หันไปมองและปฏิเสธที่จะจับมือกับคนๆนั้นในท่วงทำนองแบบ “ขวางคิ้ว เย็นชา เฉย”

ไม่ให้ความสนใจ ไม่ให้ความสำคัญ

กล่าวสำหรับ “อีช่อ” ไม่ว่าจะไปออกรายการของ”มดดำ” ไม่ว่าจะไปออกรายการของ”หนุ่ม กรรชัย” ยังยืนยันอย่างเสมอต้น เสมอปลายว่า

ยังไม่เคยเปิด “คลิป” อันเป็นที่มาของคำว่า “อีช่อ”

เมื่อประสบกับท่วงทำนองในแบบของ “อีช่อ” ตัวจริงเสียงจริงเช่นนี้ภาษาวัยรุ่นเขาเรียกว่า “เงิบ”

เงิบเหมือนกรณีคนแตะศอก ส.ส.วัน อยู่บำรุง โดน

ความหมายของภาษากาย ภาษาพูดที่สำแดงออกมาแปลออกมาได้อย่างตรงไปตรงมา

นั่นก็คือ ไม่ให้ความสนใจ ไม่ให้ความสำคัญ

 

ก็เหมือนดังที่ปรากฏใน”ธรรมบท” บรรดาคำหยาบ คำให้ร้ายหมายขวัญอันมาจากคนบางคน เมื่อไม่เป็นเรื่องจริง เมื่อเห็นเป็นสิ่งปฏิกูล สิ่งนั้นก็จะกลายเป็นของเน่าเหม็น เป็นของเสีย

และคนที่รับผิดชอบมิได้เป็นตัว”อีช่อ”อันถูกกล่าวหา หากแต่จะย้อนกลับไปยังเจ้าของคำพูดนั้นซะเอง

รับไปเต็ม-เต็ม ในความรู้สึกร่วมของสังคม