อาการละล้าละลัง คิดนึกตรึกตรอง อันมาจากพรรคประชาธิปัตย์ อันมาจากพรรคภูมิใจไทย อันมาจากพรรคชาติไทยพัฒนา  กำลัง กลายเป็น “เส้นแบ่ง”อย่างสำคัญในทางการเมือง

เพราะว่าเป็นเส้นแบ่งที่จะเอนไปทาง “อำนาจ” ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับการต่อท่อของคสช.

จากรัฐประหาร 2557 มายังเลือกตั้ง 2562

พลันที่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ตัดสินใจเข้าร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของคสช.ในการจัดตั้งรัฐบาล

นั่นหมายถึงการได้เป็น “รัฐบาล” นั่นหมายถึงการได้ตำแหน่ง เป็น “รัฐมนตรี”

ถามว่าเหตุใดพรรคเหล่านี้จึงยังละล้าละลัง

 

หากเป็นการเลือกตั้งก่อนหน้าวันที่ 24 มีนาคม พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา คงไม่ใช้เวลายาวนานร่วม 2 เดือนเช่นนี้

แต่นี่เพราะว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมเป็นการเลือกตั้งอันสร้างมิติและโฉมหน้าใหม่ในทางการเมือง

เป็นการเลือกตั้งอันเปี่ยมด้วย”ความหวัง”

แม้ว่าจะดำเนินไปภายใต้กฎกติกาซึ่งจัดวางโดย”แม่น้ำ 5 สาย”อันเป็นผลจากรัฐประหารของคสช.เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 แต่ก็ด้วยความหวังว่า “เสียง”ของประชาชนจะได้รับความสนใจ

เพราะอย่างน้อยก็มี 245 เสียงจาก 7 พรรคการเมืองที่ประกาศอย่างแน่วแน่ว่าไม่เอาคสช. ไม่เอาการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

และหลายคนในพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนาก็เคยรู้สึกอย่างนี้

ตรงนี้แหละที่ก่อให้เกิดอาการละล้าละลัง ไม่กล้าตัดสินใจ

 

หากเป็นการเมืองภายหลังการเลือกตั้งยุคเก่า การตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

คงจะมีเสียงชโยโห่ร้องว่า อยู่เป็น ว่องไวในการตัดสินใจ

เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่นักการเมืองจะแสวงหาอำนาจเสาะหากตำแหน่งได้เป็นรัฐมนตรี

แต่หลังเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 กลับไม่เป็นเช่นนั้น