เผยแพร่ |
---|
สภาพการณ์อันกระหน่ำเข้าใส่พรรคอนาคตใหม่ เข้าใส่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เข้าใส่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ทำให้บรรยากาศก่อนสถานการณ์ 6 ตุลาคมรื้อฟื้นขึ้นในลักษณะ RETRO
เหมือนกับได้เห็นการเคลื่อนไหวในแบบ “ดาวสยาม” เหมือนกับได้ยินในแบบ”ยานเกราะ”
เพียงแต่ตอนนั้นเป้าหมายคือ “ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษา”
เพียงแต่ตัวละครย่อมเป็น นายสุธรรม แสงประทุม ย่อมเป็น นายประยูร อัครบวร ย่อมเป็น นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์
และจุดรวมศูนย์เป็น”มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์”
ขณะที่ ณ วันนี้เป็น พรรคอนาคตใหม่ เป็น นายธนาธร จึงรุ่ง เรืองกิจ เป็น นายปิยบุตร แสงกนกกุล
เหมือนกับไม่มีอะไรเปลี่ยน ทั้งๆที่มีการเปลี่ยนมหาศาล
ถามว่าเหตุใดจึงไม่มีการสกัดขัดขวางพรรคอนาคตใหม่ตั้งแต่เริ่มต้นจดแจ้งชื่อพรรคในเดือนมีนาคม 2561 ทั้งที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ประกาศตั้งแต่ต้น
อนาคต เรากำหนดเอง
คำตอบที่ตรงเป้าที่สุด 1 เพราะว่าประมาทว่าพรรคในแบบของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ไม่มีทางมีอนาคตอย่างแน่นอน เพียงแต่เปลี่ยนอนาคตใหม่เป็น”อนาคตไหม้” หรือ”อนาคตหมด”ก็เรียบร้อย
คำตอบ 1 เพราะว่ามีพรรครวมพลังประชาชาติไทย
พรรคที่มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นธงนำ พรรคที่มี นาย เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นเจ้าความคิด ทฤษฎี พรรคที่มี นายประ สาร มฤคพิทักษ์ นายสุริยะใส กตะศิลา เป็นผู้ปฏิบัติงาน
ย่อมสามารถกวาด”มวลมหาประชาชน”มาเป็นฐานทางการเมืองได้ไม่ยาก ชัยชนะมองเห็นอยู่ไม่ไกลมากนัก โอกาสของพรรคอนาคตใหม่แทบไม่มี
แต่แล้วพรรคอนาคตใหม่กลับได้มามากกว่า 80
สถานะและการดำรงอยู่ของพรรคอนาคตใหม่แม้จะมีความพยา ยามเอาอาวุธในแบบเดียวกับสถานการณ์ก่อน 6 ตุลาคมมาใช้แต่ก็เป็นอีกสภาพการณ์หนึ่งซึ่งแตกต่างออกไป
มิได้เป็นสภาพการณ์ในยุค”อะนาล็อก”เหมือนเมื่อปี 2519
ตรงกันข้าม การเลือกตั้งในเดือนมีนาคม 2562 อยู่ในสถาน การณ์แห่งยุค”ดิจิตัล”อย่างเต็มเปี่ยม
หากเป็น 6 ตุลาคม ก็เป็น 6 ตุลาคมในยุคแห่ง”ดิจิตัล”