E-DUANG : ห่วงหา อาทร อนาคตใหม่ ห่วงใย ธนาธร ปิยบุตร

ชัยชนะของพรรคอนาคตใหม่เป็นชัยชนะที่กำลังได้รับการวิพากษ์ วิจารณ์ ทั้งในด้านที่หงุดหงิด ไม่พอใจ ทั้งในด้านที่ลิงโลด โปรด ปราน

ด้านที่หงุดหงิดก็สาปแช่ง ด้านที่ลิงโลดก็ห่วงหา อาทร

ห่วงหาอาทรว่าอาจเป็นเพียงปรากฏการณ์เหมือนผีพุ่งใต้วาบมาแล้วก็แว้บหายไป ที่สาปแช่งก็อยากเห็นความพินาศพังพับ ทลายลงในเร็ววัน

บทสรุปหนึ่งซึ่งมีร่วมกันอย่างมิได้นัดหมายก็คือ มีความเป็นไปได้ที่พรรคอนาคตใหม่อาจซ้ำรอยกับพรรคประชากรไทยและพรรคพลังธรรม

มาอย่างรวดเร็วและก็อำลาจากไปอย่างรวดเร็ว

 

หากมองจากด้านตัวบุคคลก็หวาดเสียวเป็นอย่างยิ่งว่าชะตากรรมและเส้นทางของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และหรือ นายปิยบุตร แสงกนกกุล

อาจเหมือนกับ นายสมัคร สุนทรเวช อาจเหมือนกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง คือเห็นพรรคพังพาบลงกับมือ

เมื่อ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หมดแรง เมื่อ นายสมัคร สุนทรเวช สิ้นพลัง

แต่ที่ไม่เหมือนอย่างสิ้นเชิงก็คือ พรรคอนาคตใหม่อาจมีจุดเริ่มที่กรุงเทพมหานครเช่นเดียวกับพรรคประชากรไทย พรรคพลัง ธรรม

กระนั้น พรรคอนาคตใหม่ก็มีลักษณะทั่วประเทศ ไม่ว่าภาค เหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

จุดต่างอย่างสำคัญก็คือ สาขาพรรค เพียงเวลาไม่ถึง 1 ปี ไม่เพียงแต่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล จะเดินทางครบ 77 จังหวัด หากแต่ยังมีสาขาทั้ง 77 จังหวัด

รากฐานตรงนี้คือจุดต่างกับประชากรไทย พลังธรรม

 

แม้ประวัติศาสตร์จะขับเคลื่อนด้วยประชาชน แต่ก็ต้องยอมรับว่าผู้นำก็มีความสำคัญเป็นอย่างสูง เพราะหากไม่มีผู้นำที่เหมาะสม กับแต่ละสถานการณ์ประวัติศาสตร์ก็ไม่อาจขับเคลื่อนได้ ความสัมพันธ์ระหว่าง “ผู้นำ” กับ”ประชาชน”จึงขาดไม่ได้

พรรคอนาคตใหม่จำเป็นต้องบริหารพรรค บริหารผู้นำอย่างมีความสัมพันธ์ ยึดโยง และด้วยความเข้าใจ

ตรงนี้เองจะสร้างจุดต่างจากประชากรไทย พลังธรรม