เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าในที่สุดพรรคอนาคตใหม่จะได้รับเลือกด้วยจำนวน ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวนเท่าใดจากวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคมแต่สังคมก็ยอมรับในการดำรงอยู่ของพรรคอนาคตใหม่
ปรากฏการณ์ “ธนาธร” ปรากฏการณ์”อนาคตใหม่”กำลังเป็น เรื่องเหลือเชื่อ
เรื่องเหลือเชื่อเหมือนกับที่พรรคเพื่อไทยสามารถสร้างปรากฏ การณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้กลายเป็นนายกรัฐมนตรีจากการ เลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554
ลบคำสบประมาทไม่ว่าจะมาจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ว่าจะมาจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เพียงแต่เป็นปรากฏการณ์”ธนาธร อนาคตใหม่”เท่านั้น
หากดูจากการก่อตัวของพรรคอนาคตใหม่ผ่าน นายธนาธร จึงรุ่ง เรืองกิจ ผ่าน นายปิยบุตร แสงกนกกุล ในห้วงเดือนมีนาคม 2561ก็อาจเป็นเวลาเกือบ 1 ปี
1 ปีท่ามกลางการสบประมาท 1 ปีท่ามกลางเสียงดูหมิ่นถิ่นแคลน
ไม่ว่าจะจาก”นักการเมือง” ไม่ว่าจะจาก”สังคม”
กว่าสังคมจะเริ่มรู้สึกก็สัมผัสได้จากความหวาดกลัวอันปรากฏผ่านบรรดา”ลุงๆป้าๆ”ทั้งหลาย ไม่ว่าจะจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ว่าจะจากกปปส.
นั่นก็คือ ความหงุดหงิดของ”ลุงเสรี” นั่นก็คือ ความหงุดหงิดของ “ป้าสินจัย“ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
ยิ่งมาถึงเดือนมีนาคม 2562 ยิ่งตระหนกตกประหม่า
สัมผัสได้จากการสร้างคลิป”ตัดต่อ” สัมผัสได้จากเสียงเพรียกหา “รัฐประหาร” ภายหลังจากกวาดพรรคอนาคตใหม่ไปรวมอยู่กับพรรคเพื่อไทย
หาก 2 พรรคนี้จับมือกันมีสิทธิได้กว่า 250 เสียง
ความสำเร็จของพรรคอนาคตใหม่ในพื้นที่การเลือกตั้งอาจมองจากกระแสและความนิยม และที่สำคัญก็คือ จำนวนของ ส.ส.ที่เคยคิดว่าไม่ได้แต่แตะไปยังหลักใกล้ 100
นั่นเสมอเป็นเพียงการคาดหมาย เป็นเพียงความรู้สึก
กระนั้น ความสำเร็จซึ่งสำคัญและแหลมคมมากยิ่งกว่า คือความสามารถในการปักธงทางความคิด
ปลุกสร้างและก่อให้เกิด“วาระ“ในทาง“สังคม“ขึ้น