ภาพที่ นายพานทองแท้ ชินวัตร เดินหาเสียงร่วมกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ตลาดหัวมุมถนนเกษตรนวมินทร์ เพื่อช่วยผู้สมัครในสังกัดพรรคเพื่อไทย

เป็นภาพที่ควรให้ความสนใจอย่างเป็นพิเศษในทางการเมือง

นี่คือการประสานระหว่างพลังของคนรุ่นใหม่กับพลังของคนรุ่นก่อนที่มากด้วยประสบการณ์

น่าสนใจก็ตรงที่ในวันเดียวกันนั้นที่สวนจตุจักร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ออกพบปะประชาชนพร้อมกับ พล.อ.ประ วิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา

นี่ย่อมเป็นการผนึกพลังอย่างแข็งแกร่งของ”บูรพาพยัคฆ์”ท่ามกลางการรปภ.อย่างเข้มแข็ง

ทั้งหมดนี้คือภาพเปรียบเทียบอันมีความหมายทางการเมือง

 

ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไปในทางส่วนตัว นอกเวลาราชการ ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะไปในทางส่วนตัวนอกเวลาราชการ

ไม่ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จะไปในทางส่วนตัวนอกเวลา ราชการ

แต่ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะปัดปฏิเสธความจริง

นั่นก็คือ หมวกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยย่อมตามไปด้วย หมวกรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลา โหมย่อมตามไปด้วย

หมวกหัวหน้าคสช.และหัวหน้ารัฐบาล คือ นายกรัฐมนตรีย่อมตามไปด้วย

ขอให้ดูที่การคุมเข้มของรปภ.นอกเครื่องแบบ

ขณะที่กล่าวสำหรับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กับ นายพานทอง แท้ ชินวัตร เขาเดินไปกับผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยอย่างเป็น ธรรมดาปรกติ

เป็นการแย้มยิ้มโอภาอย่างเป็นธรรมชาติมิได้ปรุงแต่ง

 

ยิ่งใกล้วันที่ 22 มีนาคม การเคลื่อนไหวของ”นักการเมือง”ยิ่งดำเนินไปด้วยความคึกคัก

ไม่ว่านักการเมืองใน”เครื่องแบบ”

ไม่ว่านักการเมืองที่เป็นคนธรรมดาสามัญ ไม่มีหัวโขนใดๆมาเสริมแต่ง

ทั้งหมดล้วนอยู่ในสายตาและความรับรู้ของประชาชน

ทั้งหมดนี้นำไปสู่การตัดสินใจในวันที่ 24 มีนาคมแน่นอน