ไม่เพียงแต่พรรคพลังประชารัฐเปิดตัวที่ภาคเหนืออย่างโอ่อ่า อลัง การผ่าน “ไลฟ์” สดผ่านเฟซบุ๊ค

หากแต่การปราศรัยใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ก็ยิ่งใหญ่ ยรรยง

เวทีหลักคือ หอประชุมอาคารชาญชัยอะเคเดียม มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เขตทวีวัฒนา กทม.

ถ่ายทอดสดไปยัง 7 จุดทั่วประเทศ

เสียงของ นายชวน หลีกภัย จึงมิได้รับฟังเพียงภายในหอประ ชุมเท่านั้น ตรงกันข้าม บอกไปยัง 7 จุดทั่วประเทศ ดังกึกก้อง กังวาน

เท่ากับฝนตก “บ้านน้อง” มีเสียง “ฟ้าร้อง” กระหึ่มไปถึงบ้านพี่นั่นเทียว

นี่คือผลสะเทือนจาก”เทคโนโลยี”

 

หากดูจากพัฒนาการของแต่ละการเคลื่อนไหว ถือเอากรณีที่เห็นได้จากพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ ตลอดจนพรรคอนาคต ใหม่มาเป็นตัวอย่าง

ขั้นต้นมีการปราศรัยกับมวลชนเรือนพัน เรือนหมื่นที่มาออกันหน้าเวที

ไม่ว่าที่อุดรธานี ไม่ว่าที่ภูเก็ต ไม่ว่าที่เพชรบูรณ์

เมื่อการปราศรัย การพบกับประชาชนดำเนินไปอย่างเป็นสา ธารณะ ปรากฏการณ์อันตามมาก็คือ มีการบันทึกเป็นคลิปและพลันที่มีการโพสต์คลิปไปอยู่ใน”ยูทูบ”

ไม่เพียงแต่คนที่อุดรธานี คนที่ภูเก็ต คนที่เพชรบูรณ์ เท่านั้นจะได้รับฟัง

หากมีลักษณะทั่วประเทศ หากมีลักษณะทั่วโลก

การรับฟังก็มิใช่ว่าฟังแล้วก็หมดสิ้น ตรงกันข้าม หากต้องการจะฟังอีกก็สามารถคลิกจากช่องทาง”ยูทูบ”มาฟัง หรือหากชมชอบมากก็ยังสามารถบันทึกเก็บไว้เป็นของตนเอง

นี่คือความล้ำเลิศของ “เทคโนโลยี”

 

การเลือกตั้งในเดือนมีนาคม 2562 จึงแตกต่างไปจากการเลือกตั้งในกาลอดีตเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในยุคพรรคเสรีมนังคศิลา ไม่ว่าจะเป็นในยุคของพรรคสามัคคีธรรม

การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจาก”นวัตกรรม”ใหม่ทั้งในการเลือก ตั้งและจาก”เทคโนโลยี”

คำถามอยู่ที่ว่าแต่ละกลไกจะปรับตัวรับได้ทันหรือไม่

คำถามอยู่ที่ว่าแต่ละกลไกสามารถรู้เท่าทันเทคโนโลยีหรือไม่